svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

"ชาคริต"...ในวันที่"น้ำตา"อยู่ข้างในและชีวิตที่ยังขอสู้ต่อ

16 มิถุนายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อดีตนักเตะที่หมดโอกาสได้ไปต่อกับ "สิงห์เจ้าท่า" ชาคริต ระวันประโคน เปิดใจเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ ที่ต้องรับข่าวร้ายครั้งแรกในชีวิต ของการเป็นนักฟุตบอล เมื่อ "การท่าเรือ เอฟซี" ขอยกเลิกสัญญา ทำให้ต้องก้าวออกมาและเริ่มต้นใหม่ วิ่งหาสโมสรสังกัดเพื่อพิสูจน์ตัวเอง

"ชาคริต"...ในวันที่"น้ำตา"อยู่ข้างในและชีวิตที่ยังขอสู้ต่อ

" นานแล้วที่ผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้ มันตอบไม่ถูกครับ ไม่มีน้ำตาออกมา ที่มีก็คือความรู้สึกแบบที่เรียกว่า น้ำตาที่อยู่ข้างใน ผมถามตัวเองตลอดว่า ทำผิดอะไรหรือเปล่า คือถ้าผมทำความผิด และถูกลงโทษก็รับได้ แต่เมื่อไม่มีความผิด สโมสรตัดสินใจเช่นนี้ ก็ได้แต่บอกกับตัวเองว่า เราต้องภูมิใจ เมื่อออกมาแล้วชีวิตก็ต้องสู้ต่อ ต้องดิ้นรนกันต่อ ผมยังอยากที่จะพิสูจน์ตัวเอง กับการเป็นนักฟุตบอลในไทยลีก " ชาคริต ระวันประโคน วัย 29 ปี นักฟุตบอล ชาวบุรีรัมย์ ที่ถูกยกเลิกสัญญา จากสโมสรการท่าเรือ เอฟซี และอยู่ระหว่างหาต้นสังกัดใหม่ เพื่อไปต่อกับเส้นทางของนักฟุตบอลอาชีพ สะท้อนความรู้สึก กับ " เนชั่นทีวี"



ชาคริต ย้ายจากนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี มาร่วมงานกับการท่าเรือ เอฟซี ในปี 2018 พร้อมด้วยเบอร์เสื้อหมายเลข 99 และสัญญา ของเขาจะสิ้นสุดลง ในเดือนธันวาคม 2020 ย้อนไปที่ปีแรกของการทำงานในถิ่นแพทสเตเดียม คลองเตย ( 2018 ) กับ"สิงห์เจ้าท่า"ที่เต็มไปด้วยขุมกำลังในทุกตำแหน่งในแบบที่ล้นทีม ทำให้โอกาสของ เขา ต่อการลงสู่สนาม ด้วยการเป็น 11 ตัวจริง กับตำแหน่งกองหน้า มีไม่บ่อยนัก และไปอยู่ในบัญชีของผู้เล่น สำรองที่รอเปลี่ยนลงไปในเกม โดยลงเล่นให้ การท่าเรือฯ รวม 11 นัด ด้วยกัน

"ชาคริต"...ในวันที่"น้ำตา"อยู่ข้างในและชีวิตที่ยังขอสู้ต่อ

ทำให้ในปี 2019 อดีตนักฟุตบอลที่เริ่มต้นวัยเรียนจากสวนกุหลาบวิทยาลัย ถูกส่งไปให้กับ เอ็มโอเอฟ ศุลกากร ยูไนเต็ด ทีมในไทยลีก 2 ด้วยสัญญายืมตัว โดยเล่นอยู่กับทีมในไทยลีก 2 จนจบฤดูกาล กระทั่งถูกส่งตัวกลับมายังต้นสังกัดเดิม คือ การท่าเรือ เอฟซี



" ตัวสัญญาของผมกับการท่าเรือฯ จะสิ้นสุดลงในเดือนธันวาคม แต่สโมสรฯได้บอกเลิกสัญญา ในเดือนมิถุนายน โดยไม่มีโอกาสที่จะได้พูดถึงการส่งผม ไปให้กับสโมสรอื่นในแบบยืมตัว เช่นที่เคย ส่งผมไปให้กับเอ็มโอเอฟศุลกากร ยูไนเต็ด ก่อนหน้านี้ คำว่ายกเลิกสัญญาทางการท่าเรือฯ ได้จ่ายค่าชดเชยให้ผม เพียงแต่ในมุมผมเอง ความรู้สึกก็คือยังอยากที่จะพิสูจน์ตัวเอง ยังอยากที่จะเล่นให้กับต้นสังกัด ยังอยากจะเป็นส่วนหนึ่งของทีมไปจนสิ้นสุดสัญญา   ชีวิตการเป็นนักฟุตบอล การที่ได้เล่นในแพทสเตเดียม มันคือความรู้สึกแบบสุดยอด"



"ชาคริต"...ในวันที่"น้ำตา"อยู่ข้างในและชีวิตที่ยังขอสู้ต่อ



"เพียงแต่ตอนนี้ผมไม่มีโอกาสอีกแล้ว ความรู้สึกคือมันเคว้ง ในชีวิตนักฟุตบอลอาชีพ นี่คือครั้งแรกที่ผมถูกยกเลิกสัญญา ไม่มีทีมรองรับ ในชีวิตนักฟุตบอล ผมเคยผ่านความเจ็บปวด จนน้ำตาไหลออกมา เพราะบาดเจ็บที่หัวเข่า ขณะเล่นให้กับราชบุรี มิตรผล เอฟซี ( 2012-2013 ) อาการตอนนั้นร้องไห้ มันทรมาน ต้องผ่าตัด"



"กว่าจะกลับมาได้กับการรักษาตัว ก็ต้องใช้เวลานาน ต้องพิสูจน์ตัวเองในการเรียกความฟิต เหตุการณ์ครั้งนั้นถือว่าเลวร้ายที่สุด จนมาถึงครั้งนี้ ที่มาเกิดเหตุการณ์ในแบบคล้ายคลึงกัน มันไม่ได้เจ็บที่ร่างกาย แต่เจ็บที่ความรู้สึก แน่นอนเมื่อก้าวออกมาแล้ว คือการที่ต้องนับหนึ่งใหม่ด้วยตัวเราเอง ผมเคยผ่านประสบการณ์ ต่อการเป็นผู้เล่นที่ทีมฟุตบอลต้องการ  เพียงแต่สิ่งที่ผมกำลังเรียนรู้เพิ่มเติมในปีนี้ คือการที่จะต้องต่อสู้ด้วยตัวเอง เพื่อให้ไปไปต่อกับฟุตบอลอาชีพ"

"ชาคริต"...ในวันที่"น้ำตา"อยู่ข้างในและชีวิตที่ยังขอสู้ต่อ




"ปีนี้ผมอายุ 29 ปี ยังมีไฟ และอยากที่จะสู้ต่อกับฟุตบอล ไมว่าจะไทยลีก 1 หรือ ไทยลีก 2 ตอนนี้ก็ยื่นโปรไฟล์ตัวเอง ไปให้กับสโมสรฟุตบอล เพื่อโอกาสของตัวเอง ก็มีทั้งโค้ชที่เคยร่วมงานด้วยกันมาช่วยเหลือ รวมทั้งเพื่อนนักฟุตบอล ด้วยสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในปีนี้ การหาทีมฟุตบอลร่วมงานด้วย ไม่ง่ายเลย เพราะแต่ละทีมต่างก็พยายามลดการใช้จ่าย ใช้ผู้เล่นที่มีอยู่แทนการเสริมทีม แต่ผมยังจะสู้ต่อ ไม่ท้อแน่นอน ผมยังต้องการพิสูจน์ตัวเอง" ชาคริต ระบุ



"ชาคริต"...ในวันที่"น้ำตา"อยู่ข้างในและชีวิตที่ยังขอสู้ต่อ

"ชาคริต"...ในวันที่"น้ำตา"อยู่ข้างในและชีวิตที่ยังขอสู้ต่อ

เส้นทางของ ชาคริต ระวันประโคน กับฟุตบอลอาชีพ เขาเริ่มต้นกับ เอสซีจี เมืองทองยูไนเต็ด ในปี 2009 , 2010 ไปร่วมงาน กับภูเก็ต เอฟซี , 2011 ย้ายไปเล่นให้กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ลงสนามไป 24 นัด ยิง 5 ประตู , 2012-2013 เล่นให้ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 17 นัด ยิง 1 ประตู , 2017 เล่นให้ นครปฐม ยูไนเต็ด 18 นัด ยิงไป 2 ประตู , 2015 เล่นในกับสโมสรยาสูบ 35 นัด ทำได้ 11 ประตู , 2016-2017 เล่นให้ นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 49 นัด ยิงไป 7 ประตู ,2018 เล่นให้ การท่าเรือ เอฟซี และ 2019 เล่นให้กับ เอ็มโอเอฟศุลกากร ยูไนเต็ด

logoline