คำต่อคำ "เปิ้ล หัทยา" ไม่คิด "ตั้ว" จะเสียชีวิต วาระสุดท้าย ไปสงบที่สุด

โดย เปิ้ล เผยว่าก่อนแต่งงาน พี่ตั้ว ป่วยเป็นไวรัสตับอักเสบบี ที่ผ่านมา พี่ตั้ว ดูแลตัวเองตลอด เช็คร่างกายตลอด แต่ไวรัสตับอักเสบบี กลายพันธุ์ไปเป็นมะเร็ง พี่ตั้ว ก็งงว่า ตัวเองสุขภาพดี แต่ทำไมถึงยังป่วย จนมะเร็งลามมาที่กระดูก ก็รักษามาเรื่อยๆ
ตอนเข้ารักษาที่รพ.จุฬาฯ ครั้งแรกเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก็ป่วยระยะที่ 3 แล้ว ทีแรกคิดว่าน่าจะรักษาได้ หมอให้ยาไป 6 เข็ม จากนั้นเดือนกุมภาพันธ์ก็ดีขึ้น ไปทำงานได้ ไปกำกับละคร เพราะเปิดละครเรื่องใหม่
แต่หลังจากนั้นก็เริ่มปวดอีก ที่ สะบัก และ ขา หมอเลยให้พักและรักษาอีกครั้ง เพราะกระดูกทรุดเพิ่ม รักษาด้วยการเริ่มฉายแสง
ช่วงรักษาก็กินอาหารไม่ได้ รู้สึกผะอืดผะอม และร่างกายมีแคลเซี่ยมสูง ซึ่งไปทำลายระบบความคิด ทำให้ พี่ตั้ว ไม่อยากนอน ไม่อยากกิน
ซึ่งช่วงที่ทรุดอีก ก็มีโรคโควิด 19 พอดี พี่ตั้ว เลยไม่บอกใครว่าป่วย ตามสไตล์ของ พี่ตั้ว เพราะทุกคนก็เครียดจากโควิด แม้จะมีคนทักว่าผอมลงก็ตาม
ช่วงรักษาตัว นอนอยู่บ้าน ตื่นมา พี่ตั้ว ก็จะพูดถึงเรื่องงาน พูดถึงกองถ่าย ถ่ายหรือยัง ใช้เครนมั้ย คิดถึงเรื่องงาน จน เปิ้ล ต้องบอกว่า ตอนนี้นอนอยู่บ้านนะ
โดย พี่ตั้ว มาเข้าโรงพยาบาลครั้งสุดท้าย เมื่อวันพุธที่แล้วนี่เอง ซึ่งตอนนั้นหมอก็เอกซเรย์ แล้วก็นัดทำTCสแกน วันที่ 18 มิถุนายน นี้ แต่สุดท้าย มะเร็งก็ลามมาที่ปอด และแคลเซี่ยมก็สูงมาก

ซึ่ง เปิ้ล มีความรู้สึกมันเร็วมาก คิดว่า พี่ตั้ว น่าจะแข็งแรงขึ้น ไม่คิดว่าจะเสีย
ตอนนอนอยู่โรงพยาบาลก็คุยกัน พี่ตั้ว ยังสื่อสารได้ แต่พูดช้าลง บอกว่า อยากกลับไปเหมือนเดิม จากนั้น หมอก็เริ่มมาถาม เปิ้ล ว่า พี่ตั้ว อยากเจอใครเป็นพิเศษมั้ย?
จากนั้น เปิ้ล ก็ร้องไห้ พูดต่อไม่ได้ ด้านพี่เอก ธเนศ วรากุลนุเคราะห์ ในฐานะพี่ชายแท้ๆ ก็เลยพูดต่อแทน เปิ้ล โดยเผยว่า

ตั้ว จะไม่บอกใครเลย เป็นคนแบบนี้ เค้าไม่อยากให้คนอื่นเดือดร้อน ชอบแก้ปัญหาด้วยตัวเอง ไม่บอกลูกด้วยซ้ำ ญาติรู้อยู่สองคน เป็นคนอดทน แก้ปัญหาด้วยตัวเองเสมอ
ตอนนอนโรงพยาบาลก็พูดช้าลง รับรู้ได้ ใช้วิธียักคิ้วเอา โดย พี่เอก ได้คุยกันกับ ตั้ว อีกสองวันเต็มๆ ในช่วงสุดท้ายก่อนที่จะไป
ซึ่งการไปของ ตั้ว เป็นเรื่องดีมาก เพราะ ตั้ว นอนนิ่งๆ เหมือนหลับไปเฉยๆ พี่เอก ก็บอก ตั้ว ถ้าเหนื่อยก็หลับไปเลย ตื่นที่ไหนก็ช่างมัน ตอนนี้ทุกคนมาอยู่พร้อมหน้าแล้ว ทุกคนมาส่ง เดี๋ยวก็เจอกัน
ไม่มีใครต้องให้ ตั้ว เป็นห่วงเลย ทุกคนยิ้มแย้มแจ่มใส แล้ว ตั้ว ก็ค่อยๆไป ซึ่งก่อนหน้านั้น ตั้วพยายามสู้ คลื่นหัวใจยังขยับ แต่พอทุกคนมา และอยู่ในความสงบ ช่วงทุ่มนึ่ง คลื่นหัวใจของ ตั้ว ก็ค่อยๆลง

พี่เอก ก็บอก ตั้ว ว่า หลับนะ สู้มาเยอะแล้ว อยากพักก็พัก อยากนอนเมื่อไหร่ก็ตัดสินใจเอาเองเลย
เรียกได้ว่า ตั้ว จากไปอย่างสงบ จนไม่รู้จะว่ายังไง และทุกคนก็สงบตาม ตั้ว ไปด้วย
โดย เปิ้ล ก็เสริมอีกว่า งานละครของ พี่ตั้ว ต่อจากนี้ ก็จะมีผู้กำกับมาช่วยทำต่อให้เสร็จ
จริงๆไม่ได้คิดว่า พี่ตั้ว จะเสียเลย ยังแพลนกันว่า ถ้าหายดี จะไปหาลูกสาวที่เกาหลี จะไปทะเล ไปงานรับปริญญาลูกสาวตอนปลายปี ตอนนี้ เปิ้ล เลยยังไม่ได้คิดว่าจะทำอะไรต่อกับชีวิตดี เพราะมันกระทันหัน

พี่เอก ธเนศ ก็เสริมอีกว่า ตั้ว เป็นคนทำอะไรจริงจัง ทำเพื่อผู้อื่น จะเก็บปัญหาไว้แก้เอง รักครอบครัว ญาติพี่น้อง ภูมิใจน้องชายคนนี้ที่สุด
เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมชาติ ถึงเราช็อก แต่เราช็อกแปปเดียวก็พอ สิ่งที่เกิดกับ ตั้ว ถือเป็นอุทาหรณ์ ว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นได้กับทุกคน
อยากฝากแฟนๆให้ใช้ชีวิตโดยไม่ประมาท มองชีวิต ตั้ว เป็นอุทาหรณ์ ก็จะเป็นบุญแก่ ตั้ว ด้วย
ด้าน เปิ้ล ก็ส่งท้ายว่า ขอขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ ขออภัยที่ไม่ได้บอก เพราะ พี่ตั้ว ขอไว้ว่า อยากทำให้ร่างกายแข็งแรงก่อน แล้วจะออกมาบอกเล่าการต่อสู้ของตัวเองให้ฟังทีหลัง
และเรา ต้องไม่ชะล่าใจเรื่องสุขภาพ แม้จะดูแลร่างกายดี แต่ช่วงที่เราอ่อนแอ มันก็เกิดขึ้นได้