"ก้าวไกล" หวั่น รัฐบาลกินรวบ ใช้อำนาจปิดปากฝ่ายค้านในสภาฯ

นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกัน ปราบปราม การทุจริตและประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฏร พร้อมด้วยนายประเสิรฐพงษ์ ศรนุวัตร นายคารม พลพรกลาง ส.ส.,แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่มีกระเเสข่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ เตรียมจะเสนอ ชื่อนายวิรัช รัตนเศรษฐ์ นั่งกมธ.ปปช. แทนตำเเหน่งที่ว่าง ว่า เนื่องจากในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ในวาระ 7.2 เรื่องการตั้งคณะกรรมธิการวิสามัญ ในการตั้งคณะกรรมาธิการป้องกัน ปราบปราม การทุจริตเเละประพฤติมิชอบ แทนตำแหน่งที่ว่าง จากการที่นายจุลพันธ์ โนนศรีชัย อดีตส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ลาออก นั้น โดยเมื่อวานมีกระเเสข่าวว่า จะมีพรรคจากฝั่งรัฐบาลเสนอชื่อ บิ๊กเนม ของพรรค มานั่งกมธ.ปปช โดยธีรัจชัย ตั้งข้อสังเกตุว่า คณะกรรมาธิการปปช. ตามหลักการของฝ่ายนิติบัญญัติ มีอำนาจและหน้าที่ในการตรวจสอบฝ่ายบริหาร และตลอดการเลือกตั้งที่ผ่านในสมัยนี้ กมธ.ปปช ได้มีบทบาท สำคัญในการตรวจสอบในหลายเรื่องสำคัญ อาทิ การกักตุนหน้ากากอนามัย // การตรวจสอบคุณสมบัติของร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรเเละสหกรณ์ ซึ่งตามหลักเเล้วควรมีความจำเป็นที่จะต้องมีตัวเเทนของฝ่ายค้านเข้าไปตรวจสอบ เเละกลไลในกมธ มีทั้งฝ่ายค้านเเละรัฐบาล โดยในช่วงเเรกมีสัดส่วนของกรรมาธิการ 8ต่อ 7 ฝ่ายค้านมากกว่าฝ่ายรัฐบาล.ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดี ต่อมานายจุลพันธ์ โนนศรีชัย อดีตส.ส.อนาคตใหม่เดิม ได้ลาออก เเละย้ายไปอยู่พรรครัฐบาล 1 ท่าน ลาออก 1 ท่าน ในปัจจุบันจึงทำให้กรรมธิการฝ่ายค้าน น้อยกว่า คือ 8ต่อ 6 ซึ่งขณะนี้ยังมีเรื่องที่ค้างรอตรวจสอบอีกร้อยกว่าเรื่อง ของประชาชนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม จากการทุจริตเเละประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐ

โดยตนตั้งข้อสังเกตว่า ในการตรวจสอบดังกล่าว อาจจะทำให้ฝ่ายรัฐบาลไม่พอใจ โดยตนขอให้ฝ่ายค้านได้ใช้โอกาสนี้ใน กมธ.ปปช ได้ทำงานเเละจากทีมีกระเเสข่าวว่า พรรคพลังประชารัฐ จะเสนอชื่อ นายวิรัช รัตนเศรษฐ์ แทน ตำเเหน่งของนายจุลพันธ์ ที่ลาออก นั่น ตนเห็นว่า ในการดำเนินของคณะกรรมาธิการมันจะไม่ใช่การตรวจสอบที่ปกติ โอกาสทำการทำงานของกรรมาธิการฝ่ายค้านจะมีความยากมากขึ้น เเละโอกาสในการตรวจสอบรัฐบาลจะยากยิ่งขึ้น เรื่องที่มีการร้องเรียนเข้ามาเกี่ยวกับรัฐบาล ในประเด็นสำคัญจะยากเลยครับ

ทั้งนี้ธีรัจชัยข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า กระบวนการของฝ่ายรัฐบาลไม่ควรเข้ามายุ่ง เนื่องจากเรื่องมีเป็นสัดส่วนโควต้าเดิมของอดีตพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งควรจะเป็นโควต้าของพรรคก้าวไกล ไม่ควรเข้ามาตั้ง เเละเเทรกเเซง ซึ่งถ้าหากนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร นำวาระดังกล่าว มาพิจารณา เเละกลไลของระบบรัฐสภาในการจัดสรรจะต้องตามสัดส่วนของพรรคการเมืองที่มีในรัฐสภา โดยสัดส่วนตรงนี้ยังคงเป็นของพรรคฝ่ายค้านอยู่ ไม่ว่าจะเป็นของพรรคเพื่อไทย หรือพรรคก้าวไกลก็ตาม ถ้าเป็นไปได้ขอรัฐบาลอย่ามาเเทรกเเซงในเรื่องนี้ ซึ่งจะทำให้ฝ่ายค้านได้มีประสิทธิภาพในการตรวจสอบรัฐบาล และการที่บุคคลนั้นจะเข้ามานั่งใน กมธ.ปปช ผมคิดว่า บุคคลนั้นควรมีประวัติที่ขาวสะอาดหน่อย โปร่งใสหน่อย ถ้าเอารนมีประวัติที่เคยถูกชี้มูลจาก ป.ป.ช.มา คนมีประวัติที่เคยมัวหมองจากการตรวจสอบการทุจริตมาต่อเนื่องระยะยาวในหลายๆเรื่องที่ผ่านมา มาอยู่ในกรรมธิการนี้ไม่ว่าจะบิ้กเนม หรืออะไรก็เเล้วแต่ ผมคิดว่าอาจจะไม่เหมาะสม ผมอยากให้คนเข้าตรวจสอบมีความจริงใจที่จะทำเพื่อบ้านเมืองในการควบคุม กำกับดูเเลตรวจสอบรัฐบาล ในการที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนหรือดูแลกลไกของรัฐและหน่วยราชการต่างๆที่ทุจริตหรือประพฤติมอชบ และขอความกรุณารัฐบาลอย่าแทรกแซง ให้ฝ่ายค้านได้ดำเนินการ นายธีรัจชัย กล่าว