"วีระ"นำชี้แนวเขตไร่"ทวี"พบกองซากสัตว์จำนวนมาก

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 4 มิ.ย.63 พ.ต.อ. วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม/ หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน พร้อมด้วย นายชนันต์ อินทรักษ์ ปลัดอาวุโสอำเภอสวนผึ้ง นายสุชาติ บัวบาง หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รบ. 3 (พุยาง) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สวนผึ้ง เจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ สปก.จ.ราชบุรี ร่วมตรวจสอบที่ดินของนายทวี ไกรคุปต์ บิดาของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส.ราชบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ตั้งอยู่หมู่ที่ 9 ต.ท่าเคย อ.สวนผึ้ง โดยทาง บก.ปทส.ได้ทำหนังสือประสานนายวีระ สมความคิดเลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) ให้มาร่วมนำชี้แนวเขตที่ดินของนายทวี ไกรคุปต์ ด้วย จึงมีความจำเป็นที่จะต้องตรวจสอบประเภทของที่ดิน รังวัดพื้นที่ จำนวนเนื้อที่ดินและตำแหน่งที่ดินบริเวณโดยรอบแปลงที่ดินที่เกิดเหตุในวันนี้

นายวีระ สมความคิด (คปต.) กล่าวว่า ทางหัวหน้าพนักงานสอบสวนทำหนังสือถึงตนเองตั้งแต่วันที่ 28 พค. เพื่อขอความร่วมมือให้พามาชี้พื้นที่อีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้าที่เคยเดินทางมาแล้วตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม แต่วันนั้นทางป่าไม้และ ส.ป.ก. ไม่ได้มาด้วย คงมาแต่ทางป่าไม้และอ้างว่าไม่ได้เตรียมเครื่องมือมา แต่นัดตนเองให้มาเสียเวลา วันนั้น ปทส.เลยไม่ได้ตรวจสอบพื้นที่ไม่มีการรังวัดอย่างละเอียด และติดช่วงโควิดเลยหยุดไปกว่า 2 เดือน ส่วนวันนี้จะเริ่มเข้ามารังวัดอย่างละเอียดเป็นหน้าที่ของทางป่าไม้ และให้ตนเองในฐานะที่เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษมาชี้ที่ดินที่กล่าวโทษนั้นมีจุดไหนบ้าง ซึ่งคงมี 3 จุด เช่น จุดริมถนน และออกไปอีกใกล้มีอีก 2 แปลง ทางเจ้าหน้าที่ ปทส.ได้ออกหนังสือเชิญมาช่วยชี้พื้นที่ในฐานะผู้ร้อง

ส่วนที่ดินเท่าที่ตรวจสอบมีการครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ ไม่ว่าจะเป็น สค. 1 หรือ นส. 3 แต่ที่แปลงนี้เขาอ้างว่ามีโฉนดนิดเดียวจริงหรือไม่ไม่รู้ อีกทั้งก็ไม่เคยเอาเอกสารสิทธิ์มายืนยันได้เลย โดยเฉพาะ นส.ปารีณานั้น มาชี้ที่ดินที่ได้ไปแจ้งกับ ปปช.ว่ามีที่ดิน 1,706 ไร่ นั้นก็ไม่ยอมพาไปชี้ แต่ยังยืนยันว่ามีที่ดินอยู่จริง แต่พอตำรวจบอกให้มาชี้ก็ไม่ยอมมา ซึ่งจะผิดกับกรณีนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ แม่ของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ซึ่งตำรวจบอกให้พาไปชี้จุดก็ได้ส่งคนพาไปชี้จุดเลยสามารถนำชี้ได้หมด กรณีนายทวีเท่าที่ทราบได้มีการออกหมาย ซึ่งมีการอ้างว่าต้องมีการรังวัดให้ละเอียดก่อนจึงจะรู้ว่าบุกรุกเท่าไหร่ แล้วจึงจะแจ้งข้อหา และมีหมายเรียกให้นายทวีมาพบ

ส่วนที่มีสิ่งปลูกสร้างจะเห็นถังบาดาลอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติจะมีการรังวัดออกมาว่ามีพื้นที่ทั้งหมดเท่าไหร่ เท่าที่ทราบมีการอ้างเข้ามาครอบครองต่อจากคนอื่นตั้งปี 2523 ที่แปลงนี้มีหลักฐานจากที่นายทวีไปทำหนังสือหาเสียงกับชาวบ้านโพธาราม มีชาวบ้านเอาหนังสือมาให้มีการเขียนชัดเลยว่าสมัยหนึ่งปี 2530 ได้ที่ดินตรงนี้ 200 ไร่ แต่การได้มาคงต้องรอให้เจ้าหน้าที่ต้องตรวจว่าได้มาอย่างไร มีหลักฐานการได้มาอย่างไร

ด้านพ.ต.อ. วัชรินทร์ พูสิทธิ์ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม/ หัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนได้มาดูที่ดินที่เกิดเหตุโดยการขอหมายค้น ซึ่งได้มีการเชิญนายทวี ไกรคุปต์มาร่วมด้วย แต่ถ้าไม่มาจะให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือ ปลัดอำเภอ ซึ่งเป็นผู้ปกครองท้องที่ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย ว่ามีเนื้อที่เท่าไหร่บ้าง มีการทำหนังสือทั้งนายทวี และนางสาวปารีณา แต่ก็ไม่มา

วันนี้จะดูพื้นที่ละเอียด เพราะของเดิมกรมป่าไม้จะไม่ยุ่งกับพื้นที่ ส.ป.ก. ถ้าวันนี้มีที่ดิน ส.ป.ก.ควบอยู่ ป่าไม้ก็จะรังวัดทั้งหมดและกล่าวหาจำนวนเนื้อที่เพิ่มจาก ส.ป.ก. เหมือนครั้งที่แล้วคล้ายๆกับของนางสาวปารีณา ซึ่งเนื้อที่จากน้อยก็จะเพิ่มขึ้นไปอีก ซึ่งได้ประสานกับอธิบดีซึ่งประสานจากส่วนกลางลงมา ปัญหามีคือส่วนกลางยังไม่เคยเข้าพื้นที่จึงต้องมีการประชุมกันอยู่ก่อนทางภาพถ่ายทางอากาศ เพราะเดี๋ยวจะเอาโดรนขึ้นบินจะได้เดินง่ายขึ้น เพราะพื้นที่จะดูไม่ออกว่าตรงไหนเป็นเขต ส.ป.ก. ตรงไหนเป็นเขตป่าสงวน แนวเขตอยู่แค่ไหนโดยคณะที่มาตรวจสอบพื้นที่ดินจะเป็นส่วนกลางที่เคยมาตรวจที่ดินของนางสาวปารีณา ไกรคุปต์

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปทส. ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดเลขที่ 74 / 2563 เริ่มตรวจค้นตั้งแต่เวลา 11.00-17.00 น. มาให้ กำนันตำบลท่าเคย และ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 เป็นผู้นำชี้ที่ดินของนายทวี ไกรคุปต์ ซึ่งมีแท๊งค์น้ำรูปแชมเปญหลายจุด และโรงเลื่อยไม้ พบไม้ขนาดใหญ่หลายท่อนวางทิ้งเกลื่อน นอกจากนี้ที่บริเวณบ่อเลี้ยงจระเข้ที่มีการขออนุญาตจำนวน 1,050 ตัว แบ่งการเลี้ยงหลายบ่อ เจ้าหน้าที่ได้ถ่ายภาพบันทึกเป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังพบซากสัตว์จำนวนมากภายในไร่ซึ่งจะต้องตรวจสอบต่อไปว่าเป็นซากสัตว์อะไร

ทั้งนี้นี้ก่อนเข้าตรวจสอบพื้นที่ บริเวณทางเข้าเจ้าหน้าที่ได้พบเอกสารฉบับหนึ่งเกี่ยวกับสัญญาจำนองที่ดินถูกทิ้งไว้ข้างทาง และเมื่อเดินตามรอยรถเข้าไปในป่าพบหลุมขนาดใหญ่ ภายในหลุมดังกล่าวพบถังน้ำแข็งใช้สำหรับแช่ซากไก่ตายเพื่อเป็นอาหารจระเข้ถูกทิ้งส่งกลิ่นเหม็นอยู่จำนวนหลายใบรวมถึงเครื่องซักผ้าเก่า แต่ที่สำคัญนายวีระ งงมากเมื่อพบเห็นเอกสารจำนวนหนึ่งที่เกี่ยวกับการฟ้องร้องต่อศาลเรื่องที่ดินต่าง ๆ มีนามสกุล ไกรคุปต์ด้วย ถูกทิ้งเกลื่อน จึงได้เพียงบันทึกภาพไว้เท่านั้น ทั้งทางเจ้าหน้าที่จะนำข้อมูลที่นำชี้พื้นที่ในวันนี้ไปพิจารณาเกี่ยวกันเรื่องคดีต่อไป