ส่วนที่นายจาตุรนต์ บอกว่านายกฯยังไม่แสดงให้เห็นว่าจะเปิดโอกาสให้มีการตรวจสอบ ป้องกันการทุจริตในการใช้งบประมาณ นายสุภรณ์ ระบุว่า นายกฯยืนยันมาตลอดในการให้ความสำคัญในการใช้งบประมาณแผ่นดินของภาครัฐ ที่สามารถตรวจสอบได้ และรัฐบาลได้มีหน่วยงานต่างๆในการตรวจสอบอยู่แล้ว และสภายังมีแน้วโน้มที่จะตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญติดตามตรวจสอบการใช้เงินกู้อีก
พร้อมกับขอให้ฝ่ายค้านอย่ากังวลว่าจะมีการจัดสรรโควตางบประมาณให้ ส.ส.คนละ 80 ล้านบาท ไม่เป็นความจริงอย่างแน่นอน เพราะการบริหารราชการแผ่นดินโดยการนำของนายกฯ จะไม่มีทางให้เกิดการทุจริตเด็ดขาด โดยนายกฯย้ำมาตั้งแต่เข้ามาบริหารบ้านเมือง มีการสั่งการปราบปรามการทุจริตอย่างจริงจัง และหากมีหลักฐานที่ชัดเจนฝ่ายค้านสามารถนำมาเพื่อให้ดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที
"นายกฯ ยืนยันมาตลอดที่จะไม่ปล่อยให้มีการทุจริตอย่างแน่นอน ดังนั้นฝ่ายค้านไม่ต้องกังวล และขอบคุณฝ่ายค้าน และนายจาตุรนต์ ที่แสดงความเป็นห่วงรัฐบาลในเรื่องนี้ ซึ่งการใช้งบประมาณจาก พรก.กู้เงิน นอกจากจะมีหน่วยงานภาครัฐ และองค์กรอิสระทำการตรวจสอบอย่างเข้มงวดใครกล้าทุจริตโกงกินเงินภาษีประชาชน นายกฯจัดการดำเนินการตามกฎหมายถึงตายแน่นอนไม่ละเว้นหน้าใหนทั้งสิ้น
พร้อมกับมองว่านายจาตุรนต์ เองเป็นผู้ที่เห็นต่างจากนายกฯ เข้าใจดีว่าอาจไม่ไว้วางใจนายกฯ ที่จะทำอะไรก็ต้องค้านทั้งหมดทุกเรื่อง บางครั้งต้องพึงระวังการค้านแบบมั่วไม่มีเหตุผลค้านไปเสียทุกเรื่อง ภาพพจน์ส่วนตัวนายจาตุรนต์จะเสียหายเอง ขออย่าไปคิดแทน หรือพูดแทนประชาชนเลยในเรื่องที่ประขาชนเข้าใจนายกฯดีอยู่แล้วเพราะที่ผ่านมาตั้งแต่มีการแพร่ระบาดโควิด-19 เห็นว่าผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนพอใจการแก้ไขปัญหาของนายกฯและรัฐบาลดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ส่วนการคง พรก.ฉุกเฉิน นั้น นายจาตุรนต์ ก็ไม่ต้องเป็นกังวล เพราะขณะนี้ นายกฯได้แต่งตั้งให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เป็นประธานคณะกรรมการพิจารณาศึกษาเพื่อรองรับกรณีหากยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน หลังมีการขยายการบังคับใช้ถึงวันที่ 30 มิ.ย. ซึ่งคณะกรรมการชุดนี้จะมีหน้าที่พิจารณาว่าหลังวันที่ 1 ก.ค.หากไม่มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน แล้ว จะใช้กฎหมายฉบับใดมาใช้แทน เพราะต้องมีมาตรการดูแลป้องกันที่เหมาะสม เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสกลับมาแพร่ระบาดในรอบที่สองอีก" นายสุภรณ์กล่าว