svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

อดีตกก.บห. พปชร. จี้"อุตมม-สนธิรัตน์"สปิริตสุภาพบุรุษลาออก

02 มิถุนายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"สัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ" ส.ส.นราธิวาส อดีตกก.บห. พปชร. จี้ "อุตมม - สนธิรัตน์" สปิริตสุภาพบุรุษลาออกไป รักษาพรรคเอาไว้ แนะกลับไปทบทวนตัวเองทำไมถูกต้านหนัก ชี้การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องปกติไม่ได้ไปคดโกงใคร

นายสัมพันธ์ มะยูโซ๊ะ ส.ส.นราธิวาส และอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ที่ลาออก ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์สถานการณ์ภายในพรรคพลังประชารัฐ ว่า เป็นเรื่องปกติทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ตามกฎหมายรัฐธรรมนูญ ส่วนการที่จะเปลี่ยนนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาพรรค เป็นเหตุผลภายในพรรค ซึ่งสิ่งที่ตนลาออกเพื่อให้พรรคพลังประชารัฐ เดินต่อไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพที่มั่นคง ทั้งนี้ นายสัมพันธ์ บอกว่า ตนมาอยู่พรรคพลังประชารัฐ เพราะว่าพรรคพลังประชารัฐนั้นเสนอชื่อสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคหรือนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการนั้น ส่วนตัวตนไม่ได้มีความสนิทสนมหรือมีการชมชอบในทางการเมืองมาก่อนไม่เคยรู้จักกัน

"สิ่งที่ทำในวันนี้ ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัวอะไร ผมว่าการที่ทำให้พรรคพลังประชารัฐอยู่ได้เดินต่อไปได้อย่างเข็มแข็ง เป็นสิ่งสำคัญมากกว่าตำแหน่งหัวหน้า เลขาฯ เพราะถ้าปล่อยไว้นานๆ โดยไม่เปลี่ยนแปลงหัวหน้าเลขา ผมว่าการเลือกตั้งครั้งหน้า จะไม่เหลือเพื่อน ส.ส. อยู่ต่อแน่นอน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของการบริหารงานภายในพรรค เป็นเรื่องภายในบ้าน ไม่ได้ไปทำอะไรผิดกฎหมาย คดโกงใคร หรือผมไปทำอะไรที่ผิดต่อประเทศชาติและผมคิดว่าการกระทำในวันนี้เป็นเรื่องของความกล้าหาญกล้าตัดสินใจให้ ส.ส. และสมาชิกพรรค อยู่ต่อกันอย่างแข็งแรงสามัคคีเพื่อทำงานให้ชาติบ้านเมือง"

นายสัมพันธ์ กล่าวต่อว่า หัวหน้าและเลขาธิการ ไม่ควรยึดติดกับตำแหน่งนี้ เพราะว่าถ้าทุกคนในกรรมการบริหารพรรคเกินครึ่งไม่ยอมรับ และก็ควรเป็นสุภาพบุรุษ ถ้าท่านยึดมั่นในระบบประชาธิปไตย ท่านต้องหยุดแล้วไปพิจารณาวิเคราะห์ตัวเองมากกว่าว่าอดีตที่ผ่านมาท่านทำอะไรไว้ถึงทำให้กรรมการบริหารพรรคเกินครึ่งไม่เอาท่าน และตามระบบประชาธิไตย คือต้องยอมรับเสียงส่วนมาก ไม่ใช่คนนั้นคนนี้มาพูดว่า เป็นช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์แบบนี้ ตนเรียนว่า ธุรกิจกิจการห้างร้านต่างๆก็ต้องมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงเพื่อให้อยู่ได้ พรรคพลังประชารัฐเอง ก็คิดเหมือนกันว่าถ้าจะให้อยู่ต่อไปได้ และอยู่โดยมีคุณภาพ ก็ต้องมีการเปลี่ยนแปลง หัวหน้าเลขาพรรค ทำไมต้องยึดติดกับตำแหน่ง

logoline