สหรัฐฯ ระอุ เคอร์ฟิวกว่า 40 เมือง ส่งทหารช่วยควบคุมสถานการณ์กว่า 15 รัฐ!

ล่าสุดพบว่ากว่า 40 เมือง ใน 22 รัฐ ต้องใช้คำสั่งเคอร์ฟิว ห้ามคนออกจากบ้าน ขณะที่ทหารกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิกว่า 5,000 นายถูกส่งไปควบคุมสถานการณ์ใน 15 รัฐและกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. และมีอีก 2,000 นายรอเคลื่อนกำลังเมื่อมีคำสั่ง
ในขณะที่ทางด้าน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมากล่าวเตือนเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2563 ว่า ถ้าผู้ประท้วง ซึ่งรวมตัวกันที่ลาเฟแยตสแควร์ตรงข้ามทำเนียบขาว ข้ามรั้วเข้ามาพวกเขาจะเผชิญกับสุนัขดุร้ายที่สุดและอาวุธน่ากลัวที่สุดเท่าที่ผมเคยพบเห็นมา

การประท้วงครั้งนี้เริ่มลุกลามบานปลายไปยังประเทศต่าง ๆ อาทิเช่นที่ กรุงลอนดอน ชาวเมืองนับพันออกมาเดินขบวนบริเวณจัตุรัส ทราฟาลการ์ ถือป้ายเรียกร้องความเป็นธรรมให้ จอร์จ ฟลอยด์ โดยการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบก่อนที่กลุ่มผู้ประท้วงจะเคลื่อนขบวนไปตามแม่น้ำเธมส์ มุ่งหน้าสู่สถานทูตสหรัฐฯ
ขณะที่กรุงเบอร์ลิน ของเยอรมนีก็มีผู้ประท้วงออกมาชุมนุมกันที่หน้าสถานทูตสหรัฐฯ ใกล้กับประตูบรานเดนบวร์กส่วนที่ประเทศแคนาดา ประชาชนนับพันคนออกมารวมตัวประท้วงที่สวนสาธารณะ คริสตี พิตส์ ในเมืองโทรอนโตอีกด้วย

แน่นอนว่าสถานการณ์ในปัจจุบันนั้นก็กลายเป็นการตอบโต้ทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ กับคู่อริ ตลอดกาล ไม่ว่าจีน หรือรัสเซีย หรือแม้แต่อิหร่าน โดยกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียทวีตข้อความว่า ตำรวจอเมริกันก่ออาชญากรรมที่ได้รับความสนใจจากประชาชนบ่อยเกินไปแล้ว ทางการสหรัฐฯ ควรสืบสวนคดีฆาตกรรม จอร์จ ฟลอยด์ อย่างละเอียดรอบคอบ
ด้านหัว ชุนอิง โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ใน เน้นย้ำเรื่องปัญหาการเหยียดเชื้อชาติในสหรัฐฯ ส่วนนาย หู ซื่จิน บรรณาธิการสำนักข่าว โกลบอล ไทม์ส ของจีน บอกว่ารัฐบาลจีนควรสนับสนุนการประท้วงในสหรับฯ เหมือนที่พวกเขาเชิดชูผู้ก่อจลาจลในฮ่องกงหรือไม่?
ส่วนสื่อของอิหร่านประโคมข่าวกล่าวหา ตำรวจสหรัฐฯ ว่าโจมตีผู้ชุมนุม และใช้ความรุนแรงกับผู้ประท้วงสถาพร เกื้อสกุล
1-6-2563