ถามว่าสงสารลูกมั้ย ก็สงสารเขานะ แต่เขาไม่เคยบ่น เขาอยากช่วยพ่อแม่เขาเป็นเด็กดีไม่เคยสร้างความหนักใจ นิสัยเขาขี้เล่น เป็นคนร่าเริง รักสนุกไม่เคยบ่นให้พ่อฟังนะว่าเหนื่อยหรือลำบาก เขาไม่เคยบอกว่า ขออยู่เฉยๆให้พ่อแม่เลี้ยง เขาไม่พูดเลย ก็ไปแบกปูน ขนทรายกับพ่อแม่ชีวิตเขาก็ลำบากกับเรามาตั้งแต่เด็กๆ
ชีวิตก็เริ่มดีขึ้น ครอบครัวดีขึ้น แต่ก่อนลำบากกันมาก เขาก็ทำงานส่งเงินให้ทุกเดือน แต่พ่อแม่ก็ยังออกทำงานรับจ้างแถวบ้านนะ ไม่ได้รอเขาอย่างเดียว เรายังพอทำไหว แต่ออยเขาก็ไม่อยากให้พ่อแม่ไปทำงานแล้ว เขาบอกว่าพ่อแม่เหนื่อยมามากแล้ว เขาถามตลอดนะว่าพ่อแม่มีเงินใช้มั้ย
จนแม่เขามีอาการปวดหัว เขาก็พาไปตรวจที่ศรีราชา ชลบุรี เพราะเขาทำงานที่นั่น เขาว่าจะได้ดูแลได้ง่าย ตรวจเจอเนื้องอกในสมอง เขาก็ให้ผ่าตัดที่นั่นเลย ก็มาเฝ้าแม่ ดูแลแม่ใกล้ชิดอยู่เป็นเดือนๆ ตอนนั้นถึงแม่จะเจ็บป่วย แต่ครอบครัวมีความสุขที่ได้ดูแลกัน รู้สึกดีมากๆที่เขาไม่ทิ้งพ่อแม่เลย
ตอนที่แม่เขาผ่าตัดเสร็จแล้ว ออยเขาเริ่มซื้อเสา เหล็ก อิฐ ปูนทราย พวกอุปกรณ์ก่อสร้างมาเตรียมทำบ้านใหม่แล้วนะ พอเขาหายไปนาน เราก็ไม่มีเงิน ก็เริ่มทยอยเอาของพวกนั้นไปขายจนหมด ตอนนี้ก็ยังอยู่บ้านไม้หลังเดิม แม่เขาผ่าตัดสมองมาก็ไม่เหมือนเดิม ไม่แข็งแรง ส่วนพ่อตอนนี้เป็นมะเร็ง และมันไปกดเส้นประสาท เดี๋ยวนี้ซีกขวาไม่มีแรงแล้ว เหมือนคนพิการที่ต้องนอนเฉยๆ
พ่อรู้จักออยดี เขาไม่หายไปแบบนี้แน่ๆ เขาเป็นห่วงพ่อแม่ ใจพ่อตอนนี้ คิดว่าเขาต้องเกิดเหตุร้ายแน่ๆ มันมีอะไรผิดปกติ ถ้าเขายังอยู่เขาต้องกลับมาบ้านแล้ว นี่ 6 ปีแล้วที่เขาหายเงียบไป คุยกันกับแม่เขาตลอด ว่าลูกเราหายไปไหน เป็นตายร้ายดียังไง ถ้ามีแรงมีกำลังก็อยากออกไปตามหาเขา แต่ตอนนี้ไม่รู้จะไปยังไง ขอแค่รู้ว่าเขาอยู่ไหนจะเป็นตายร้ายดียังไง ขอแค่รู้ เพราะการไม่รู้อะไรเลยแบบนี้มันทรมาน.