ซึ่งคลิปได้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกโซเซียลสร้างความสะเทือนใจ และไม่พอใจต่อการกระทำที่ดูจะรุนแรงเกินไปของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ชาวเมืองมินนิอาโปลิส ในรัฐมินนิโซตา ออกมาประท้วงและก่อจลาจลไปทั่วทั้งเมือง เพื่อต่อต้านการปฏิบัติหน้าที่อันไม่ถูกต้องชอบธรรมของตำรวจทั่วสหรัฐฯขึ้นมาอีกครั้ง
โดยผู้ประท้วงจากหลักร้อยได้เพิ่มเป็นหลักพันคน ออกมาตามท้องถนนสายต่างๆ รอบๆ สถานีตำรวจเติร์ด พรีซิงท์ ในช่วงค่ำวันพุธ (27 พ.ค.) และเหตุประท้วงกลายเป็นการเผชิญหน้าบริเวณด้านนอกสถานีตำรวจ โดยตำรวจในชุดปราบจลาจลได้ใช้แก๊สน้ำตา, กระสุนยางและระเบิดควัน เพื่อควบคุมฝูงชน แต่ทางพวกผู้ประท้วงตอบโต้ด้วยก้อนหินและวัตถุอื่นๆ บางส่วนขว้างกระป๋องแก๊สน้ำตากลับเข้าหาเจ้าหน้าที่ แม้ว่านายกเทศมนตรี เจค็อบ เฟรน ได้เรียกร้องคณะอัยการยื่นดำเนินคดีอาญากับตำรวจผิวขาวที่กดคอฟลอยด์บนถนน แล้วก็ตาม
.
.
.
.
ล่าสุด ทางการได้มีการประกาศสภาวะฉุกเฉินแล้ว หลังจากที่ม็อบลุกฮือเป็นจำนวนมากขึ้น และยากต่อการควบคุม ทั้งยังเกิดความเสียหายไปทั้งเมือง ขณะที่ นายกเทศมนตรีเมืองมินนิอาโปลิส ได้ทวีตว่า "ในตอนนี้พื้นที่บริเวณทะเลสาบไม่ปลอดภัยแล้ว และถ้าเป็นไปได้เราอยากขอร้องให้คุณอย่าออกไปไหนคืนนี้ และผมขอร้อง ชาวมินนิอาโปลิสทุกคน เราจะไม่ปล่อยให้โศกนาฏกรรมเรื่องหนึ่ง มาสร้างโศกนาฏกรรมเรื่องใหม่ให้เกิดขึ้น "
อ่านข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้องได้ที่นี่...