"จิรวัฒน์"ซัดระบบเยียวยารบ.ล่าช้าขาดประสิทธิภาพไม่โปร่งใส

(28 พฤษภาคม 2563) นายจิรวัฒน์ อรัณยกานนท์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาพ.ร.ก.กู้เงิน ทั้ง 3 ฉบับ ว่า วันนี้ (28พ.ค.) นอกจากความท้าทายของรัฐบาลในการบริหารจัดการปัญหาแล้ว คิดว่ายังเป็นความท้าทายของสภาฯ โดยเฉพาะสมาชิกที่เป็นตัวแทนของประชาชนที่จะได้ทำการตรวจสอบ ว่ารัฐบาลใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล รวดเร็วว่องไว ทันต่อสถานการณ์ที่ประชาชนเดือดร้อนหรือไม่ ซึ่งเงินกู้จำนวนวงเงิน 5.5 แสนล้านบาท ที่นำมาเยียวยาประชาชนเข้าใจดี ว่ารัฐบาลได้กำหนดเป้าหมายในการใช้อย่างชัดเจนในการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากนโยบายของรัฐบาล แต่อย่างไรก็ตามสภาฯก็ต้องตรวจสอบ นายจิรวัฒน์ กล่าวต่อว่า การลงทะเบียนรับเงินเยียวยาของกระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้ลงทะเบียนเว็ปไซต์ก็ล่ม ไม่สามารถเข้าไปลงทะเบียนได้ ที่เลวร้ายคือการโดนปฏิเสธ และที่ยิ่งเลวร้ายกว่าคือการที่ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงระบบสารสนเทศ จนต้องไปจ้างให้คนอื่นช่วยลงทะเบียนให้ จึงเกิดคำถามว่า AI ของรัฐบาล คือ AI เก๊ หรือเป็นการหวังโฆษณาเชิงการตลาดว่าตัวเองเป็นรัฐบาลดิจิตอล 4.0 

"เพราะสุดท้ายรัฐบาลก็ต้องนำข้อมูลที่ประชาชนกรอกไปตรวจสอบกับหน่วยงานราชการอื่นอีกอยู่ดีว่าถูกต้องหรือไม่ ดังนั้น ทำไมรัฐบาลไม่ใช้ข้อมูลจากหน่วยงานราชการตรงตั้งแต่ต้น แล้วจ่ายเงินตรงให้ประชาชน หากทำแบบนี้ไม่เกิน 2 สัปดาห์ก็จบ เพราะหน่วยงานราชการมีข้อมูลอยู่แล้ว ดังนั้นถือว่าการดำเนินงานของกระทรวงการคลังล่าช้า ผิดพลาดและไม่มีประสิธิภาพ"นายจิรวัฒน์ กล่าว
ขณะเดียวกัน จำนวนของผู้ฆ่าตัวตายในช่วงโควิด-19 ซึ่งเกิดจากการไม่ได้รับการเยียวยาจากรัฐบาล ดังนั้น มองว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ หากไม่จำเป็นให้รีบยกเลิก เพราะไม่ต้องการให้กลายเป็นว่าที่รัฐบาลบอกสุขภาพนำเสรีภาพ แต่วันนี้ไม่ใช่ เพราะมันคือความมั่นคงทางการเมืองนำสุขภาพและเศรษฐกิจ และอยากย้ำว่า รัฐบาลอาจต้องเปลี่ยนทีมบริหาร โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง อาจจะต้องปรับคณะรัฐมนตรี (ครม). แล้วภาพพจน์รัฐบาลจะดีขึ้น แต่หากให้ดีกว่านั้น การมีรัฐบาลที่มาจากประชาชนบนกติกาที่ถูกต้องและมีความเป็นมืออาชีพในการบริหารงานมากกว่านี้
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนต้องย้ำไปยังประชาชนที่ฟังอยู่ว่า เงินกู้ก้อนนี้คือเงินทุกคน การได้รับการเยียวยาไม่ได้มีบุญคุณอะไรกับรัฐบาล เพราะนี่คือหนี้ของพวกเราที่ต้องใช้ ดังนั้น ขอสรุปว่ารัฐบาลนี้ บริหารจัดการล่าช้า ไม่ครอบคุม ไม่รัดกุม และไม่โปร่งใส