svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

วิเคราะห์:"สิงห์เจ้าท่า"จัดทัพหลังคว้า"อดิศร" เสริมทัพ

28 พฤษภาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หลังการมาของ "เก่ง" : อดิศร พรหมรักษ์ ปราการหลัง จาก" กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทองยูไนเต็ด และ"ช้างศึก" ทีมชาติไทย ทำให้แฟนบอลการท่าเรือ เอฟซี ตั้งคำถามว่านักเตะวัย 26 ปี รายนี้ จะไปยืนตรงไหน เกรียงไกร รัตนา "เนชั่นทีวี" วิเคราะห์และอ่านใจ "มาสเตอร์จเด็จ" จเด็จ มีลาภ กุนซือทีม ว่าจะจัดแท็คติกในเกมรับอย่างไร

วิเคราะห์:"สิงห์เจ้าท่า"จัดทัพหลังคว้า"อดิศร" เสริมทัพ

วิเคราะห์:"สิงห์เจ้าท่า"จัดทัพหลังคว้า"อดิศร" เสริมทัพ


เรียกได้ว่าเซอร์ไพรส์พอสมควร หลัง "สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือ เอฟซี ในไทยลีก ซื้อตัว "เก่ง" อดิศร พรหมรักษ์ กองหลังดีกรีทีมชาติไทย จาก กิเลนผยอง "เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมร่วมลีก เข้ามาสู่ครอบครัว"สิงห์เจ้าท่า" สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลไม่น้อย และหลายๆคนมองว่า การมาของ"เก่ง" จะเป็นการเสริมแนวรับของ"การท่าเรือ เอฟซี"ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น แต้ถ้ามองลึกลงไปในเรื่องของแท็คติก ที่ "มาสเตอร์เด็จ" จเด็จ มีลาภ หัวหน้าผู้ฝึกซ้อม หรือ"กุนซือ" ของทีมจะเลือกใช้ เมื่อมีนักเตะในตำแหน่งกองหลังดีๆหลายคน ก็มีคำถามว่า"มาสเตอร์จเด็จ"จะวางตำแหน่งแบบไหน

ถ้าดูจากรายชื่อผู้เล่นในแผงแนวรับของการท่าเรือ เอฟซี โดยเฉพาะในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค ถือว่าอุดมไปด้วยผู้เล่นที่เป็นแถวหน้าของไทยลีก อย่าง ดาบิด โรเชล่า , เอเลียส ดอเลาะ , ทศพล ลาเทศ และยังมีกองกลางตัวรับอย่าง ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่สามารถถอยมายืนเซ็นเตอร์แบ็คได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่"เซอร์จเด็จ"คิดไม่ตกว่าจะจัดทีมอย่างไร
เริ่มจากรูปแบบ 3-5-2 ถ้า"เซอร์จเด็จ"เลือกรูปแบบการยืนแบบนี้ จะมีเซนเตอร์แบ็ค 3 คน จะประกอบไปด้วย อดิศร พรหมรักษ์ , ดาบิด โรเชล่า และ เอเลียส ดอเลาะ แน่นอนว่าการยืนเซ็นเตอร์แบ็คในสูตรนี้ เป็นแท็คติกที่ขันเกมรับให้แน่น การที่"อดิศร"ประสานงานในเกมรับกับ"โรเชล่า"และ"ดอเลาะ" จะเรียกได้ว่าเป็น 3 ปราการหลังที่ผ่านยากมาก

ทำให้ผู้เล่นในเกมรุกมั่นใจที่จะขึ้นไปเล่นเกมรุกด้านบนได้เต็มที่ ไม่ต้องพะวงแนวรับ เพราะวิงแบ็คและตัวรุกริมเส้นของท่าเรือ ถือว่ามีแต่ผู้เล่นที่มีความเร็วทั้งสิ้น ไล่ตั้งแต่ บดินทร์ ผาลา , นิติพงษ์ เสลานนท์ , เควิน ดีรมรัมย์ และ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา รวมถึงโควตาอาเซียนอย่าง มาร์ติน สตูเบิล แบ็คซ้ายฟิลิปปินส์ ที่สามารถเล่นได้ทั้งเกมรุกและเกมรับได้เป็นอย่างดี ซึ่งการมาของ"อดิศร" ทำให้นักเตะเหล่านี้ ดันขึ้นไปช่วยเกมรุกได้อย่างเต็มที่ ขึ้นอยู่กับ"มาสเตอร์จเด็จ" จะเลือกใช้ใครในแต่ละแมตช์ แต่ถ้าเดาใจ"มาสเตอร์จเด็จ" ผู้เล่นที่ยืนเป็นตัวหลักน่าจะเป็น นิติพงษ์ เสลานนท์ กับ เควิน ดีรมรัมย์

ประกอบกับในแผงแดนกลาง 3 คน มีทั้ง โก ซุล กี , ธนบูรณ์ เกษารัตน์ , ศิวกร จักขุประสาท , เซอคิโอ ซัวเรส และ ชาริล ชับปุยส์ ให้เลือกใช้ ผู้เล่นเหล่านี้ล้วนเป็นเบอร์ต้นๆของลีก นอกจากนี้ยังมีพวกดาวรุ่งฝีเท้าดีอย่าง กานต์นรินทร์ ถาวรศักดิ์ , ฉัตรมงคล ทองคีรี และ สรรเสริญ ลิ้มวัฒนะ แสตนบายรอสับเปลี่ยน ซึ่งถ้าดูจากแท็คติกที่ต้องยืนกัน 3 คนในแดนกลาง "เซอร์จเด็จ" คงใช้ โก ซุล กี , ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และ เซอคิโอ ซัวเรส

สำหรับคู่กองหน้าคงไม่ต้องบอกว่าเจ้าของพื้นที่ 1 คน คงไม่พ้นสองดาวยิงต่างชาติอย่าง แฮเบอร์ตี้ เฟอนันเดส ที่จองสัมปทานตรงนี้เอาไว้แล้ว นอกจากนี้ยังมีอดิศักดิ์ ไกรษร ที่สามารถลงมาจับคู่ สร้างความแตกต่าง ทำให้สามารถสร้างความยืดหยุ่นในแท็คติกได้เป็นอย่างดี

วิเคราะห์:"สิงห์เจ้าท่า"จัดทัพหลังคว้า"อดิศร" เสริมทัพ





แผนการเล่นที่ 2 ยืนตำแหน่งรูปแบบ 4-2-3-1 สำหรับรุปแบบนี้จะใช้เซ็นเตอร์แบ็ค 2 คน ซึ่งทำให้"เซอร์จเด็จ "ต้องเลือกดร็อป เอเลียส ดอเลาะห์ ไว้ที่มานั่งสำรอง แล้วให้"อดิศร"ยืนคู่กับ "โรเชล่า" เนื่องจาก "อดิศร"มีความคล่องตัวและความเร็วมากกว่า ดอเลาะ ที่มีปัญหาเรื่องความคล่องตัวถึงแม้ว่าจะมีรูปร่างสูงใหญ่มาทดแทน ส่วนแบ็คซ้ายและแบ็คขวาก็คงไม่พ้น นิติพงษ์ เสลานนท์ และ เควิน ดีรมรัมย์ ซึ่งเป็นแบ็คธรรมชาติอยู่แล้ว

ส่วนกองกลางตัวรับ โก ซุล กี ยึดตัวหลักในตำแหน่งนี้อยู่แล้ว ส่วนกองกลางที่จะมาช่วยงานคือ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่สามารถเป็นตัวเปลี่ยนบอลได้ดี และเล่นเกมรับได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ภาระของโก ซุล กี ไม่หนักเกินไป ตัวมิดฟิลด์ตัวรุก น่าจะยังคงเป็นเซอคิโอ ซัวเรส ที่ทำหน้าที่ในตำแหน่งนี้ได้ดีมาตลอดในการขับเคลื่อนเกมรุก ส่วน แฮเบอร์ตี้ เฟอนันเดส จะขยับมายืนตัวรุกฝั่งขวา เพื่อให้มีอิสระในการเล่นเกมรุกและไม่ถูกจับตายจากคู่แข่ง ด้านซ้าย บดินทร์ ผาลา น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดทั้งในด้านความเร็วและทักษะความสามารถเฉพาะตัว

วิเคราะห์:"สิงห์เจ้าท่า"จัดทัพหลังคว้า"อดิศร" เสริมทัพ


ด้านศูนย์หน้าตัวเป้าน่าจะเป็น อดิศักดิ์ ไกรษร ยืนเป็นตัวหลักค้ำไว้ด้านหน้า แต่อย่างไรก็ตาม ในวิถีฟุตบอลของ"เซอร์จเด็จ" ผู้เล่นในแนวรุกจะเคลื่อนที่สับเปลี่ยนหมุนเวียนตำแหน่งกันตลอดเวลา ซึ่งคงจะมีความหลากหลายและทำให้คู่แข่งจับทางได้ยาก อย่างไรก็ตาม เมื่อไทยลีก 2020 -2021 กลับมาแข่งขันในเดือนกันยายน " มาสเตอร์จเด็จ"อาจไม่ได้วางแท็คติกหรือรูปแบบ ตามที่ได้มีคาดการณ์ เพราะปัจจัยในแต่ละสถานการณ์ คือสิ่งที่กำหนดเงื่อนไข แต่เชื่อได้ว่าภายใต้เงื่อนไขนี้ ภายใต้ขุมกำลังขนาดนี้
เป้าหมายของ"สิงห์เจ้าท่า" การท่าเรือ เอฟซี มีคำตอบเดียว คือแชมป์เท่านั้น

วิเคราะห์:"สิงห์เจ้าท่า"จัดทัพหลังคว้า"อดิศร" เสริมทัพ

นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร การท่าเรือ เอฟซี

วิเคราะห์:"สิงห์เจ้าท่า"จัดทัพหลังคว้า"อดิศร" เสริมทัพ

จเด็จ มีลาภ หัวหน้าผู้ฝึกสอนการท่าเรือ เอฟซี

logoline