svasdssvasds
เนชั่นทีวี

อาชญากรรม

เตรียมออกหมายจับแพทย์-นักวิชาการ10รายพันคดีรับจ้างอุ้มบุญข้ามชาติ

26 พฤษภาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

อดีตแพทย์โรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง เข้าพบตำรวจหลังถูกออกหมายจับเกี่ยวพันคดี"รับจ้างอุ้มบุญข้ามชาติ" รับหน้าที่ผสมหัวเชื้อสเปิร์ม-ฉีดเชื้อใส่แม่อุ้มบุญ ให้ปากคำนานกว่า 2 ชม.เจ้าตัวปฎิเสธให้สัมภาษณ์สื่อ ด้านปคม.เตรียมออกหมายจับทั้งแพทย์-นักวิชาการ 10 ราย ขณะที่แพทย์ 4 รายเตรียมเข้าพบปคม.วันพรุ่งนี้

ที่กก.2 บก.ปคม. เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 พฤษภาคม มีรายงานว่า แพทย์ประจำศูนย์ทางการแพทย์ สูติ-นรีเวชกรรม อดีตแพทย์ โรงพยาบาลชื่อดังแห่งหนึ่ง ได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.มานะ กลีบศัตตบุศย์ รอง ผบก.ปคม. พ.ต.อ.ดำรงศักดิ์ อ่อนตา ผกก.2 บก.ปคม. ตำรวจปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. ภายหลังได้รับการเชิญตัวมาให้ข้อมูล พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ตามหมายจับศาลอาญา รัชดา

เตรียมออกหมายจับแพทย์-นักวิชาการ10รายพันคดีรับจ้างอุ้มบุญข้ามชาติ

(แฟ้มภาพ)
ในความผิดฐาน สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทน เพื่อประโยชน์ทางการค้า เนื่องจากตำรวจ มีพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่า นายแพทย์คนนี้ มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีเครือข่ายรับจ้างอุ้มบุญข้ามชาติ ที่ถูกจับเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเครือข่ายนี้ มีนายทุนชาวจีน ว่าจ้างหญิงไทยมาอุ้มท้อง โดยเลี่ยงกฎหมาย ด้วยการพาไปฉีดสเปิร์มในประเทศเพื่อนบ้าน แล้วกลับมาพักในไทย จนท้องแก่จึงเดินทางไปคลอดที่ประเทศจีน

มีข้อมูลจากชุดสืบสวน ระบุพฤติกรรมของ นายแพทย์ คนนี้ ทำหน้าที่ผสมหัวเชื้อสเปิม และฉีดเชื้อใส่แม่อุ้มบุญ เพื่อให้ตั้งครรภ์ ซึ่งถือว่า เป็นบุคคลสำคัญในการทำแม่อุ้มบุญ มาโดยตลอด อีกทั้ง นายแพทย์คนนี้ มีชื่อเสียงคนหนึ่งในวงการอุ้มบุญในประเทศไทยนอกจากนี้ ตำรวจ ปคม.ยังเตรียมเชิญ นายแพทย์ อีก 4 คนมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีอุ้มบุญนี้ด้วย

ขณะเดียวกัน เมื่อวานที่ผ่านมา ตำรวจจับนายหน้าหญิงไทย คนหนึ่ง ซึ่งมีหน้าที่รับส่งโอนเงิน โดยพบเส้นทางธุรกรรมการเงิน ระหว่างประเทศ มากกว่า 70 ครั้ง มาดำเนินคดี โดยควบคุมตัวได้ที่บ้านพัก ย่านพระประแดง สมุทรปราการ พร้อมแจ้งข้อหา สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทน เพื่อประโยชน์ทางการค้า เบื้องต้น นายหน้าหญิงไทย คนนี้ ได้ใช้หลักทรัพย์เงินสด 2 แสนบาท ขอประกันตัวในชั้นสอบสวนไปแล้ว


สำหรับคดีนี้ ขยายผลมาจากเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 ตำรวจ ปคม. เปิดปฏิบัติการ "อุ้มบุญ" หรือ การรับจ้างตั้งครรภ์ ที่มีนายทุนชาวจีน ว่าจ้าง ผู้หญิงไทยอุ้มท้อง จำนวน 10 จุด / เป้าหมาย 10 ราย ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด โดยในครั้งนั้น เข้าตรวจค้นบ้านหรูหลังหนึ่ง บริเวณถนนนาคนิวาส แขวงและเขตลาดพร้าว พบทารกเพศชาย วัยประมาณ 30 วัน กับหญิงสาว 7 คนที่รับจ้างตั้งครรภ์ โดยทั้ง 7 คนได้รับการฝังไข่แล้ว มีการดูแลอย่างดี เพื่อให้ตั้งครรภ์และคลอดทารก ที่มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์

พร้อมกันนี้ ยังจับ นายจ้าวหรัน นายทุนชาวจีน และผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ในข้อหาสมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทน เพื่อประโยชน์ทางการค้า มาสอบสวน และขยายผลจับ ผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้ 13 คน เป็นกลุ่มผู้รับจ้างตั้งครรภ์ 3 กลุ่ม โดยกลุ่มแรก เป็นกลุ่มนายจ้าวหรัน 5 คน ในจังหวัดหนองคาย ส่วนอีก 7 คน พบในการตรวจค้นบ้านพักย่านลาดพร้าว กลุ่มที่ 2 พบแม่อุ้มบุญในจังหวัดปทุมธานี 8 คน และกลุ่มที่ 3 เป็นกลุ่มที่เพิ่งดำเนินคดี มีแม่อุ้มบุญ 1 คน และผู้เกี่ยวข้อง 2 คน

ด้าน พล.ต.ต.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผู้บังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. เปิดเผยว่า คดีนี้ ออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องเพิ่มอีกประมาณ 10 คน ซึ่งมีทั้งแพทย์ นักวิชาการ และบุคคลอื่น โดยในจำนวนนี้ ติดต่อเข้ามารับทราบข้อกล่าวหาบ้างแล้ว ส่วนที่ยังไม่แสดงตัว ตำรวจได้ส่งชุดสืบสวนเข้าประกบตัว แล้วเช่นกัน คาดว่าภายในสัปดาห์นี้ จะสามารถปิดคดีได้ เพราะสำนวนคดีทั้งหมด ได้ส่งให้อัยการพิจารณาแล้ว สำหรับนายแพทย์ที่เข้าพบวันนี้ ทางตำรวจได้เชิญเจ้าพนักงานอัยการร่วมสอบปากคำด้วย
แหล่งข่าวเปิดเผยว่าวันพรุ่งนี้(27 พ.ค.)แพทย์อีก 4 รายจะเดินทางเข้ามอบตัวเพื่อรับทราบข้อกล่าวหา สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไป เพื่อกระทำผิดร้ายแรงอันเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ และร่วมกันดำเนินการให้มีการตั้งครรภ์แทน เพื่อประโยชน์ทางการค้า ส่วนกรณีที่ทางฝ่ายแพทย์ตั้งข้อสงสัยเรื่องการค้าอวัยวะมนุษย์ จากแนวทางการสืบสวนตรวจสอบยังไม่พบพบเพียงพ่อแม่คนจีนนำเด็กที่เกิดจากการอุ้มบุญไปเลี้ยงดู
ภายหลังให้ปากคำนานกว่า 2 ช.ม. นายแพทย์คนดังกล่าว พร้อมทนายเดินทางกลับ แต่เมื่อผู้สื่อข่าวซักถาม เจ้าตัวปฏิเสธ ไม่ตอบใดๆ ทั้งสิ้น

logoline