หนุ่มพิลึก! ตระเวนขี่ จยย.กู้ชีพ ลักรองเท้าแตะไปดมสำเร็จความใคร่

ที่ สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรีพ.ต.อ.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.วันชัย ชูจิตรผกก.สภ.บางศรีเมือง พ.ต.ท.ธรรศกร ก้อนทอง รอง ผกก.สส.สภ.บางศรีเมือง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางศรีเมืองร่วมกันจับกุมตัว นายธีระภัทร คล้ายยา อายุ 34 ปีอยู่บ้านเลขที่ 16 หมู่ 5 ซอยวัดอุทยานต.บางขุนกอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี พร้อมของกลาง รองเท้าแตะจำนวน 126 คู่ รถ จยย.ยี่ห้อยามฮ่า มีโอ สีน้ำเงิน ทะเบียน วงย812 กทม. ชุดยูนิฟอร์มกู้ชีพ 1669 ชุดกู้ภัยป่อเต็กตึ้งและวิทยุสื่อสาร โดยตั้งข้อกล่าวหาว่า ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการพาทรัพย์นั้นไป มีวิทยุสื่อสารไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

สื่บเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความจากนายสมพงษ์ศรีนวล อายุ 46 ปี และนางโสภิตประภา ตั้งแกมูล อายุ 49ปี สองสามีภรรยา ว่ามีคนร้ายสวมชุดกู้ภัยป่อเต็กตึ้งเข้าไปลักรองเท้าแตะจำนวน 3 คู่ ที่ห้องเช่าไม่มีเลขที่ ซอยวัดเฉลิมพระเกียรติต.บางศรีเมือง อ.เมือง จ.นนทบุรีโดยมีภาพจากกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐานจึงได้ส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่แกะรอยคนร้าย และทราบว่าคนร้ายเป็นนายธีระภัทรจนสามารถจับตัวได้ที่ ซอยวัดอุทยาน ต.บางขุนกอง อ.เมือง จ.นนทบุรี

ภาพจากกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกภาพคนร้ายได้เมื่อเวลา00.20น.เป็นชาย สวมชุดกู้ภัย สวมหน้ากากอนามัย ขับรถจยย.มาจอดบริเวณห้องเช่า จากนั้นได้ลงจากรถ จยย. เดินเข้าไปภายในห้องเช่า เดินสำรวจตามหน้าห้องพักและเดินขึ้นไปที่ชั้นสองของห้องเช่าเพื่อสำรวจหารองเท้าแตะที่ผู้เสียหายวางไว้หน้าห้อง ก่อนจะฉวยหยิบไป

จากการสอบถาม นางโสภิตประภา ตั้งแกมูล อายุ49ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนและสามีถอดรองเท้าแตะหูหนีบไว้ที่หน้าห้องพัก เพราะคิดว่าไม่มีราคาอะไร หายไปจึงไปดูกล้องวงจรปิดเห็นคนร้ายเข้ามาลักไปจำนวน3คู่ ของตน1คู่และของสามี2คู่ จึงได้แจ้งความและโพสต์เฟสบุ๊คเพื่อเตือนภัยสังคม

นายธีระภัทร คล้ายยา อายุ24ปี ผู้ต้องหา เผยว่า ตอนเป็นเด็ก ตนเคยถูกคนปารองเท้าปาใส่เและจำฝั่งใจมากตั้งแต่เด็ก โดยเฉพาะรองเท้าแตะแบบหูหนีบ และรองเท้าเด็กนักเรียน ซึ่งตนลักมาเพื่อนำมาดมสำเร็จความใคร่เพราะชอบมาก โดยออกตะเวนลักตั้งแต่อายุ13ปี จนตอนนี้อายุ24ปี ลักรองเท้ามาได้จะนำไปเก็บไว้ที่ใต้หมอน ทางบ้านเคยพาไปรักษาแล้วและเคยถูกจับมาก่อนหน้าเมื่อวันที่8ตุลาคม62ในพื้นที่ สภ.บางกรวย ส่วนเรื่องชุดกู้ชีพกู้ภัยตนซื้อมาใส่และออกไปอยู่ตามจุดโดยไม่มีสังกัด เพื่อช่วยทำงานจิตอาสาเนื่องจากมีความชื่นชอบ

เบื้องต้นจากการตรวจสอบประวัติผู้ต้องหาเคยถูกจับดำเนินคดีที่ สภ.บางกรวย เมื่อวันที่8ต.ค.62และมีคดีอีกหลายพื้นที่ใน จ.นนทบุรี ทางญาติผู้ต้องหายืนยันว่าผู้ต้องหาป่วยทางจิตมีประวัติรักษาตัวที่ รพ.ศรีธัญญา และที่มาก่อเหตุซ้ำเนื่องจากไม่ยอมกินยาจึงเกิดอาการกำเริบ ซึ่งหลังจากนี้จะนำตัวตรวจรักษาและปรึกษาหน่วยงานรัฐเพื่อขอความช่วยเหลือต่อไป