โฆษก ศบค. ยัน ไม่มีหักหัวคิวให้โรงแรมเป็น State Quarantine

วันนี้ (23 พ.ค.63) นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวถึงกรณีที่มีการหักหัวคิวโรงแรมเพื่อใช้เป็นสถานที่กักตัวคนไทยที่กลับมาจากต่างประเทศว่า มีกลุ่มบุคคลที่ไม่ทราบว่ามาจากส่วนงานใดที่ปรากฏในข่าว เข้ามาประสานโรงแรมขนาดใหญ่หลายแห่งในเมืองพัทยา พร้อมกล่าวอ้างว่าเป็นผู้พิจารณาคัดเลือกโรงแรมให้ใช้เป็นสถานที่กักตัวคนไทยที่กลับจากต่างแดน หรือ State Quarantine ซึ่งหากโรงแรมยอมจ่ายเงินค่าดำเนินการให้ในอัตรา 40% ของค่าหัวที่รัฐจ่ายให้รายละ 1,000 บาท/คน/วัน ก็จะประสานเพื่อให้ได้รับการคัดเลือก เรียกรับเงินที่จะเสนอตัวให้โรงแรมเป็นสถานที่กักตัวคนไทยที่กลับจากต่างแดน (state quarantine) หรือเรียกอีกอย่างคือไปขอ "หักหัวคิว" ยืนยันว่ากรณีดังกล่าวทาง ศบค.ชุดย่อย โดยศูนย์ปฏิบัติแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง (ศปม.) ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบด้านนี้ ทั้งในส่วนของกระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่าไม่เคยมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่ต่างๆเหล่านี้ ไม่มีการรับส่วนต่างใดๆ ทั้งสิ้น พร้อมฝากไปถึงผู้ประกอบการโรงแรมทั่วประเทศ หากพบกลุ่มบุคคลที่มาแอบอ้างขอให้แจ้งความดำเนินคดีได้ทันที

นพ.ทวีศิลป์ ยังบอกว่า ตอนนี้มีผู้ประกอบการโรงแรมอีกหลายรายที่จะมาเข้าร่วมเป็น State Quarantine เปิดใหม่เพิ่มเติม โดยที่จะมีหลากหลายรูปแบบให้ผู้ที่มีกำลังทรัพย์ที่เดินทางกลับมาจากต่างแดนพักระหว่างกักตัว 14 วันโดยจะต้องจ่ายเงินเพิ่มเติม หรือเรียกสถานที่ทางเลือกเหล่านี้ว่า Alternative State Quarantine
"โรงแรมทั้งหลายที่เข้ามาต้องขอขอบพระคุณที่เป็นส่วนหนึ่งในการที่ได้ดูแลพี่น้องประชาชนคนไทย เราก็ซึ้งใจอย่างมากอยู่แล้วนะครับ จะไม่มีการไปเอารัดเอาเปรียบใดๆทั้งสิ้น ถ้าโรงแรมหรือหน่วยงานใดๆนะครับรับทราบและเห็นพฤติการณ์ พฤติกรรมที่เกิดขึ้นจากบุคคลกลุ่มดังกล่าวนี้ให้แจ้งความดำเนินคดีได้ทันทีนะครับ" โฆษก ศบค. กล่าว

โฆษก ศบค. ยังบอกถึงเรื่องการต่ออายุ พรก.ฉุกเฉิน ไปอีก 1 เดือน ถึง 30 มิถุนายน ว่า ขอบคุณทุกความคิดเห็นที่สะท้อนกลับมาหลังจากที่มีการนำเสนอข่าวออกไป หลายคนเข้าใจถึงสถานการณ์และความจำเป็นที่ต้องต่ออายุ ส่วนความเห็นอื่นๆจะนำไปเสนอให้ที่ประชุม ครม.ประกอบการพิจารณาเพิ่มเติมในวันอังคารหน้า  พร้อมกับ ยังย้ำว่า กฎหมายใดๆในตอนนี้ไม่ใช่ประเด็นหลัก หรือ เรื่องสำคัญ แต่เป็นเรื่องการให้ความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนที่เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยยับยั้งความเสี่ยงของโรคโควิด-19