นายสมจิตร อยู่ศิลปชัย กล่าวว่าชาวนาประสบปัญหาขาดน้ำ เนื่องจากแหล่งน้ำธรรมชาติแห้งจนหมดโดยเฉพาะแม่น้ำยมที่แห้งขอดมากว่า 5 เดือนจึงต้องดิ้นรนหาแหล่งน้ำวิธีการที่นำมาใช้คือการสูบน้ำจากบ่อบาดาลที่เจาะในท้องแม่น้ำยมที่แห้งขอดเพื่อสูบน้ำขึ้นมาในบ่อพักก่อนที่จะใช้มอเตอร์สูบน้ำจากบ่อขึ้นไปเลี้ยงต้นข้าวโดยหลังจากที่สูบน้ำจากกลางแม่น้ำยมพบว่า ระดับน้ำใต้ดิน ได้ลดระดับลง ไปกว่า 8เมตร จึงต้องลงทุนเพิ่มเป็นเงิน กว่า 12,000บาท ในการขุดวงท่อ ลงไปยังพื้นใต้ดินกลางแม่น้ำยมเพื่อนำน้ำขึ้นมาทำการเกษตรนาข้าว ในช่วงนี้ เพื่อให้ทันต่อการเก็บเกี่ยวในช่วงฤดูน้ำหลาก
สำหรับการสูบน้ำจากบ่อบาดาลที่เจาะในท้องแม่น้ำยมที่แห้งเป็นวิธีที่ชาวนาในพื้นที่ริมแม่น้ำยมนิยมนำมาใช้เนื่องจากเป็นวิธีที่สามารถนำน้ำขึ้นมาเลี้ยงต้นข้าวได้แต่ก็ต้องประสบปัญหาต้นทุนสูงขึ้นเนื่องจากต้องสูบน้ำ 2ครั้ง ครั้งแรกสูบจากใต้ดินในท้องแม่น้ำยมขึ้นมาในบ่อพักน้ำในแม่น้ำก่อนที่จะใช้มอเตอร์สูบจากบ่อน้ำขึ้นไปเลี้ยงต้นข้าวซึ่งชาวนาต้องยอมเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเนื่องจากเป็นวิธีเดียวที่จะสามารถหาน้ำขึ้นมาเลี้ยงต้นข้าวในช่วงวิกฤติแม่น้ำยมไม่มีน้ำ