ผีแดงอ่วม! หนี้รวมพุ่งเกือบ1.7หมื่นล้าน บอร์ดยันยังรับมือได้

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยักษ์ใหญ่แห่งศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประกาศผลประกอบการของสโมสรในรอบ 3 เดือนแรกของปี 2020 ว่า มีหนี้สินเพิ่มขึ้น 127.4 ล้านปอนด์ (ประมาณ 4,957 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น 42 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลยอดหนี้รวมพุ่งไปถึง 429.1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 16,699 ล้านบาท) แล้ว ทำให้เวลานี้ต้องปรับการคาดการณ์ใหม่ หลังก่อนนี้เคยคาดว่า จะมีรายได้ในปีนี้สูงถึง 560-580 ล้านปอนด์ (ประมาณ 21,798-22,576 ล้านบาท)
โดยสาเหตุที่ทำให้ยอดหนี้สินเพิ่มสูงขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากการได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 ที่แพร่ระบาดไปทั่วโลก จนทำให้การแข่งขันฟุตบอลต้องหยุดลงชั่วคราว นอกจากนั้นอีกเหตุผลที่สำคัญก็คือ การไม่ได้ไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลนี้ ส่งผลให้ได้เงินจากค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์น้อยลง
"ปีศาจแดง" แถลงว่า "รายได้จากการถ่ายทอดสำหรับช่วงไตรมาสนี้อยู่ที่ 26 ล้านปอนด์ ลดลง 27.8 ล้านปอนด์ หรือ 51.7 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว สาเหตุหลักมาจากเงินลดไป 15 ล้านปอนด์สำหรับการถ่ายทอด หลังฤดูกาล 2019/20 ต้องเลื่อน และโปรแกรมเปลี่ยนแปลง รวมทั้งการไม่ได้ไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และผลกระทบจากการเล่นเกมเยือน พรีเมียร์ลีก น้อยลงไป 2 นัด"

"ขณะที่รายได้จากเกมการแข่งขันในไตรมาสนี้อยู่ที่ 29.1 ล้านปอนด์ ลดลง 2.6 ล้านปอนด์ หรือ 8.2 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว รวมทั้งได้ผลกระทบจากการที่ต้องเลื่อนการแข่งขันฟุตบอล ยูโรปา ลีก รอบ 16 ทีมสุดท้าย เกมในบ้าน และจากการที่ไม่มีการแข่งขันตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา"
อย่างไรก็ตาม เอ็ด วูดเวิร์ด รองประธานฝ่ายบริหารของ แมนฯยูไนเต็ด เชื่อมั่นว่าสโมสรยังอยู่ในสถานการณ์ที่สามารถรับมือได้ โดยกล่าวว่า "ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่คือช่วงเวลาที่มีความพิเศษและถือเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ 142 ปีของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตาม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นสโมสรที่มีความยืดหยุ่น และเป็นบริษัทที่มีความยืดหยุ่น เรายังคงอยู่ในตำแหน่งที่ดีทั้งในด้านของการดำเนินงานและการเงิน เราตั้งตารอที่จะกลับมาลงสนามอีกครั้ง และหวังที่จะสานต่อผลงานที่ดีจากช่วงกลางเดือนมีนาคมได้ต่อไป"