svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"เพื่อชาติ"ขอบคุณวีรชนร่วมต้านเผด็จการทำคนตื่นรู้การเมือง

21 พฤษภาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"โฆษกพรรคเพื่อชาติ"ขอบคุณวีรชนคนไทยที่ร่วมต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยตลอด 10 ปี ทำให้ตื่นรู้เท่าทันเผด็จการ พร้อมหนุนปรับกระบวนการยุติธรรมให้ยึดโยงกับภาคประชาชน

(21 พฤษภาคม 2563)น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสรำลึกการสังหารประชาชนกลางกรุงในเดือนพฤษภาคม 2535 ว่า แม้ในเวลานั้นส่วนตัวไม่ได้มีส่วนร่วม แต่จากการค้นคว้าศึกษาประวัติศาสตร์การเมืองภาคประชาชน ทำให้ได้พบความจริงว่า "เกมแย่งชิงอำนาจ" ประชาชนผู้บริสุทธิ์และมีศีลธรรม ถูกรังแก ทำร้าย เข่นฆ่า รวมทั้งกล่าวหาใส่ร้ายในเรื่องที่ไม่จริง ด้านผู้กระหายอำนาจจะกระทำการได้ทุกอย่างแบบไร้คุณธรรม เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ดังนั้น ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ทุกคนต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการยุติธรรม และกระบวนการโฆษณาชวนเชื่อภาครัฐให้ยึดโยงกับประชาชน โดยให้อำนาจตุลาการต้องเป็นของประชาชน เช่นเดียวกับอำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจบริหาร
"ใน 10 ปีที่ผ่านมา ถ้ามองอย่างผิวเผินจะยังคงเห็นว่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ถูกกระทำและเป็นผู้สูญเสีย และถูกกล่าวหาให้เป็นผู้ร้าย แต่มีคนส่วนหนึ่งที่เชื่อการโฆษณาชวนเชื่อ จนเห็นถังดับเพลิงเป็นถังแก๊ส จับคนถือถังดับเพลิงขังคุกฟรี 4 ปี ในขณะที่ผู้ร้ายตัวจริงกอดอำนาจที่แย่งชิงมาจากประชาชน ซึ่งจุดนี้กระบวนการโฆษณาชวนเชื่อภาครัฐและกระบวนการยุติธรรมต้องได้รับการแก้ไข การนำประชาชนไปขังโดยไม่มีความผิด มีแต่ความเชื่อจากการโฆษณาชวนเชื่อเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไข เพราะถ้ากระบวนการยุติธรรมเป็นเช่นนี้วันใดวันหนึ่งกระบวนการยุติธรรมด้วยความเชื่อแบบนี้ก็อาจจะมาถึงตัวทุกคนในประเทศไทยได้"โฆษกพรรคเพื่อชาติ กล่าว

น.ส.เกศปรียา กล่าวต่อว่า จากการศึกษาเหตุการณ์นี้แม้ประชาชนจะถูกกระทำอย่างสาหัส แต่ถ้ามองให้ลึกซึ้งจะเห็นว่าการต่อสู้ที่ผ่านมาในช่วงกว่า 1 ทศวรรษของประชาชน มีชัยชนะที่ทำให้คนทั้งชาติได้ตื่นรู้ถึงความไม่เป็นธรรมที่ถูกกระทำโดยกลุ่มผู้ปกครองเผด็จการ ไม่สามารถขยายความคิดชนะใจประชาชนโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ได้ แต่ใช้เล่ห์ เพทุบาย แย่งชิงอำนาจประชาชนมา รวมทั้งคนส่วนใหญ่สามารถเขื่อมโยงได้ว่า ปัญหาใกล้ตัวที่เกิดขึ้นและมีผลกระทบต่อคุณภาพการดำรงชีวิตของคนทั้งชาติล้วนมาจากสาเหตุหลักคือการถูกบังคับปกครองโดยกลุ่มเผด็จการ ที่ไม่ได้มีส่วนยึดโยงกับประชาชนอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ เหตุการณ์ล้อมปราบประชาชนเมื่อปี 2553 ชัยชนะอันยิ่งใหญ่สิ่งหนึ่งของประเทศไทย คือ การที่คนไทยหันมาสนใจการเมือง โดยเฉพาะประชาชนฐานรากและคนรุ่นใหม่ เป็นอาวุธที่มีอานุภาพสูงอย่างหนึ่งที่จะทำให้กลุ่มเผด็จการอนุรักษ์นิยมพ่ายแพ้ เพราะสิ่งที่เผด็จการกลัวที่สุดคือการที่คนทั้งชาติรู้ทันเล่ห์กลที่สอดแทรกมากับการใช้อำนาจปกครองนั่นเอง หากศึกษาประวัติศาสตร์ภาคประชาชนจะเห็นได้ว่านับตั้งแต่ปี 2475 เรื่อยมา จะเห็นว่าในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา ทำให้เผด็จการเดินได้อย่างยากลำบาก เพราะการต่อสู้ภาคประชาชนในช่วง 10 ปีสุดท้ายนี้เน้นการส่งเสริมและสื่อสารด้านข้อมูลเพื่อให้คนในชาติหันมาสนใจการเมือง
"จนคนค่อนประเทศหันมาสนใจการเมืองและสามารถเชื่อมโยงทุกสิ่ง ที่มีผลต่อการดำรงชีวิตไปสู่การใช้อำนาจที่ไม่ถูกต้องของเผด็จการได้อย่างมีนัยสำคัญ แม้ว่าเราจะต้องแลกชัยชนะนี้กับความสูญเสียวีรชน พี่น้องพ่อแม่เราไปจำนวนมาก แต่สิ่งที่ได้กลับมาต้องถือเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของประเทศไทยและในฐานะคนรุ่นใหม่ต้องขอกราบคารวะหัวใจวีรชนนักต่อสู้ทุกๆท่าน ที่ได้ส่งต่อชัยชนะของประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นมรดกล้ำค่าสู่คนรุ่นต่อไป"น.ส.เกศปรียา ระบุ

logoline