svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ข่าว

จับหนุ่มเซลขายรถเมาฝ่าเคอร์ฟิว อ้างคิดว่าเปลี่ยนเป็น5ทุ่ม

16 พฤษภาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สมุทรปราการ-หนุ่มเซลขายรถเมาฝ่าเคอร์ฟิว พบมีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 209 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ยกมือไหว้ขอไม่ให้จับ อ้างคิดว่าเปลี่ยนเวลาเคอร์ฟิวเป็น23.00น. สุดท้ายไม่รอด ถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน และขับรถในขณะมึนเมาสุรา

เมื่อเวลา 23.00 น.วันที่ 16 พ.ค.63 ขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ด่านคัดกรองโควิด 19 และด่านเคอร์ฟิว ซึ่งตั้งอยู่บนถนนเทพรัตน ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ได้มีชายคนหนึ่งอายุ 34 ปีขับรถเก๋งหรูผ่านเข้ามาในด่าน ด้วยอาการคล้ายคนเมา เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญตัวลงมาทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์

จับหนุ่มเซลขายรถเมาฝ่าเคอร์ฟิว อ้างคิดว่าเปลี่ยนเป็น5ทุ่ม

พบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 209 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินจากที่กฎหมายกำหนด และขอตรวจสอบเอกสารใบอนุญาตออกนอกเคหสถานในเวลาห้ามแต่ปรากฎว่าชายคนดังกล่าวไม่มีเอกสารมาแสดงเจ้าหน้าที่จึงเรียกจึงเชิญตัวมาสอบปากคำ

จับหนุ่มเซลขายรถเมาฝ่าเคอร์ฟิว อ้างคิดว่าเปลี่ยนเป็น5ทุ่ม

ทราบว่าชายคนดังกล่าวทำงานเป็นเซลขายรถยนต์ยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่งอยู่ที่โชว์รูมย่านถนนกิ่งแก้ว ให้การยอมรับว่า ดื่มมาจริงจากงานเลี้ยงวันเกิดรุ่นน้องที่ทำงาน แต่ดื่มเพลินไปหน่อยจนลืมและเข้าใจว่ารัฐบาลประกาศขยับเวลาเคอร์ฟิวไปถึง 23.00 น.แล้ว จึงรีบขับรถเพื่อที่จะกลับบ้านพักให้ทันเวลา

จับหนุ่มเซลขายรถเมาฝ่าเคอร์ฟิว อ้างคิดว่าเปลี่ยนเป็น5ทุ่ม


โดยชายคนดังกล่าวพยายามยกมือไหว้ขอเจ้าหน้าที่ไม่ให้จับกุม แต่เจ้าหน้าที่ไม่สามารถกระทำการดังกล่าวได้ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า ฝ่าฝืน พ.ร.ก. ฉุกเฉิน (เคอร์ฟิว ) และขับรถในขณะมึนเมาสุรา ก่อนคุมตัวส่งพนักงานสออบสวน สภ.บางแก้วเพื่อดำเนินการตามกฎหมาย

นอกจากนั้นยังพบว่ามีผู้ฝ่าเคอร์ฟิวอีกหลายรายที่ถูกจับกุมโดยอ้างว่าเข้าใจผิดคิดว่ารัฐบาลประกาศเลื่อนเวลาจากเดิม 22.00 เป็น 23.00 -04.00 น.แล้ว ซึ่งที่จริงแล้วจะมีผลบังคับใช้ใน 17 พฤษภาคม 2563 แต่ในวันนี้ยังไม่ถึงเวลาประกาศเจ้าหน้าที่จึงบังคับกฎหมายเพื่อป้องกันการกลับมาแพร่ระบาดโควิดรอบสอง
ขณะเดียวกัน พ.ต.อ. พัลภล แอร่มหล้า รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจพร้อมกำชับเรื่องการใช้แอพพลิเคชั่นตรวจสอบบุคคลกลุ่มเสี่ยงและบุคคลตามหมายจับ โดยแอพดังกล่าวจะเชื่อมต่อกับ ศบภ.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

แค่เสียบบัตรประชาชนและเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน ข้อมูลจะขึ้นทันทีว่าบุคคลนั้นอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือต้องกักตัวตามกฎของ ศบภ.หรือไม่ หากเป็นบุคคลที่มีการขึ้นข้อมูลไว้กับทางสาธารระหรือ ศบภ.ให้ต้องกักตัวแล้วออกมาจากบ้านก็จะพบข้อมูลทันที เจ้าหน้าที่สามารถดำเนินการได้ทันที เพื่อป้องการการแพร่ระบาด และตรวจสอบข้อมูลอาชญากรทั้งเรื่องหมายจับติดตัวได้อีกด้วย

logoline