svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

พลังประชารัฐใกล้ผลัดใบ - จับตารุมทึ้งเก้าอี้รอบใหม่

15 พฤษภาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"พลังประชารัฐ" ใกล้ผลัดใบเต็มที หลังมีข่าวยืนยันว่ากรรมการบริหารพรรคสาย "สามมิตร" พร้อมใจยื่นใบลาออกแล้ว ทำให้กรรมการสาย "บิ๊กป้อม" มีมากกว่า โดยนับจากจำนวนกรรมการบริหารพรรคทั้งหมด 34 คน

จนถึงขณะนี้มีข่าวยืนยันชัดเจนแล้วว่า ปัญหาความขัดแย้งเกี่ยวกับการเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐใกล้จะได้ข้อยุติเต็มที เมื่อกรรมการบริหารพรรคในสายของ "กลุ่มสามมิตร" นำโดย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รวมถึง นายอนุชา นาคาศัย และ นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ พร้อมใจกันส่งใบลาออกจากตำแหน่งกรรมการบริหาร เพื่อแสดงจุดยืนว่าสนับสนุน พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือ "บิ๊กป้อม" รองนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีคนใกล้ชิดออกมาเดินเกมเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรคก่อนหน้านี้
กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐมีทั้งหมด 34 คน สาย "บิ๊กป้อม" รวมเสียงได้ราวๆ 12-15 เสียง และให้กรรมการในสายของตนเองยื่นใบลาออกไว้ก่อนแล้ว แต่เป็นการส่งใบลาไว้ที่ "ทีมบิ๊กป้อม" เพื่อเป็นหลักประกันว่าอยู่ฝ่ายเดียวกัน แต่ยังไม่มีผลว่าลาออกแล้วจริงๆ โดยกรรมการที่เคยมีข่าวว่าส่งใบลาออกไว้แล้ว ก็เช่น นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ แม้ล่าสุดนายณัฏฐพลจะออกมาปฏิเสธข่าวก็ตาม

ขณะที่อีกกลุ่มหนึ่งที่ยังให้การสนับสนุน นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน มีกรรมการบริหารพรรคในสาย "กลุ่มสามมิตร" เป็นแกนหลัก เพราะมีนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นหัวขบวน มีเสียงสนับสนุนราวๆ 15 เสียง และยังมี "กลุ่มผู้กอง" ของ ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ อีกราวๆ 4-7 เสียงที่ยังรอดูท่าที โดยเฉพาะท่าทีของนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะออกมายืนข้างไหน
แต่ล่าสุดกรรมการบริหารพรรคในสายของกลุ่มสามมิตรได้ทยอยส่งใบลาออก ขณะที่ "กลุ่มผู้กอง" โดย ร้อยเอกธรรมนัส ก็แสดงท่าทีชัดเจนว่าอยู่กับ "บิ๊กป้อม" ทำให้ฝ่าย "บิ๊กป้อม" คุมเสียงข้างมากในกรรมการบริหารพรรค กระทั่งมีข่าวออกมาว่านายอุตตมตัดสินใจไขก๊อกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคเรียบร้อย
แม้ต่อมานายอุตตมจะออกมาปฏิเสธ และยืนยันยังทำหน้าที่หัวหน้าพรรคต่อไป แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ หรือ "หน้าไพ่" ในขณะนี้แล้ว ต้องบอกว่าถึงที่สุดก็หนีไม่พ้นต้องหลุดจากเก้าอี้ผู้นำพรรคอยู่ดี เพียงแต่จะลาออกเอง หรือจะใช้มติกรรมการบริหารพรรคปลดออกเท่านั้น

สำหรับจุดเปลี่ยนที่ทำให้กรรมการบริหารพรรคในสายสามมิตรและกลุ่มผู้กอง เปลี่ยนข้างมาอยู่กับ "บิ๊กป้อม" นั้น เพราะกรรมการกลุ่มนี้น่าจะได้สัญญาณค่อนข้างชัดว่า นายกฯไม่ได้สนับสนุนให้ "สี่กุมาร" โดยเฉพาะนายอุตตม กับนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค อยู่ในตำแหน่งต่อไปตามที่มีคนในกลุ่มออกมาให้ข่าวก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะตำแหน่งภายในพรรค
สถานการณ์ที่ดูเหมือนราบเรียบและเริ่มเข้ารูปเข้ารอยนี้ ในอีกมุมหนึ่งอาจจะเป็นการสร้างปัญหาใหม่ขึ้นมาก็ได้ เพราะยังไม่ชัดว่า "บิ๊กป้อม" จะรับเป็นหัวหน้าพรรคเองจริงหรือไม่ ถ้าจริงจะมีผลต่อภาพลักษณ์และคะแนนนิยมที่มีต่อพรรคอย่างไร ที่สำคัญการรื้อโครงสร้างกรรมการบริหารพรรคใหม่ยังทำให้เกิดแรงกระเพื่อม โดยเฉพาะตำแหน่งเลขาธิการพรรค เพราะอาจส่งผลไปถึงตำแหน่งรัฐมนตรีด้วย
ล่าสุดจึงมีข่าวแย่งชิงเก้าอี้เลขาธิการพรรคคนใหม่กันฝุ่นตลบแล้ว ทั้งๆ ที่คนเก่าอย่าง นายสนธิรัตน์ ยังนั่งหัวโด่อยู่ โดยชื่อที่ปรากฏออกมาเป็นแคนดิเดตก็เช่น นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายอนุชา นาคาศัย ซึ่งปัจจุบันเป็นรองหัวหน้าพรรคจากกลุ่มสามมิตร และเคยมีชื่อเป็นแคนดิเดตเลขาธิการพรรคมาแล้วก่อนหน้านี้ นอกจากนั้นยังมี นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม แกนนำกลุ่มสามมิตร ซึ่งเคยมีดีกรีเป็นเลขาธิการพรรคไทยรักไทยด้วย

logoline