svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"องอาจ"ชงรัฐใช้ทางสายกลางเพื่อคลายล็อกเฟส2

15 พฤษภาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์"วอนทุกฝ่ายร่วมมือทำตามมาตรการรัฐบาลหากมีการคลายล็อกเฟส 2 เพื่อป้องกันไม่ให้ไวรัสโควิด-19 กลับมาระบาดซ้ำ พร้อมจี้รบ.เร่งรณรงค์ประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลฯ เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

(15 พฤษภาคม 2563) นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้า และประธาน ส.ส. พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การคลายล็อกเฟส 2 นั้น มีประชาชนจำนวนไม่น้อยเริ่มวิตกกังวลว่าอาจนำมาสู่การระบาดของโควิด-19 รอบ 2 เนื่องจากจะมีการอนุญาตให้เปิดพื้นที่ให้มีคนจำนวนมากไปใช้บริการ เช่น ศูนย์การค้า และห้างสรรพสินค้า เป็นต้น ซึ่งจะมีคนเข้าไปเบียดเสียดใกล้ชิดกันอย่างแออัด เหมือนภาพที่เคยเห็นในอดีต อีกทั้ง มีตัวอย่างจากหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ ที่ระบาดรอบ 2 เกิดขึ้นในสถานบันเทิง เมื่อมีการคลายล็อก รวมทั้งสิงคโปร์ ที่ระบาดรอบ 2 มากขึ้น หลังคลายล็อกถึงแม้จะเป็นการระบาดในย่านที่พักอาศัยของผู้ใช้แรงงานต่างด้าวเป็นหลักก็ตาม
นายองอาจ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันก็มีเสียงเรียกร้องให้คลายล็อกเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนเดินหน้าไปได้ก่อนที่เศรษฐกิจตกต่ำมากไปกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน กลายเป็นปัญหาของประเทศจนยากที่จะเยียวยา เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงอย่างเห็นได้ชัดต่อเนื่องแล้ว และการป้องกันการแพร่ระบาดของไทยก็ทำได้ดีในช่วงที่ผ่านมา

"องอาจ"ชงรัฐใช้ทางสายกลางเพื่อคลายล็อกเฟส2

ทั้งนี้ การไม่คลายล็อกเพิ่มขึ้น เพราะมีข้อกังวลต่างๆ หรือคลายล็อกเต็มที่แบบไม่มีเงื่อนไข ย่อมก่อให้เกิดปัญหาทางใดทางหนึ่งได้ เพราะฉะนั้น ทางเลือกที่ดีที่สุดขณะนี้ควรเป็นการคลายล็อกแบบทางสายกลาง คือ ไม่ตึงไม่หย่อนเกินไป ด้วยการสร้างสมดุลให้ทุกภาคส่วนอยู่ร่วมกันได้ โดยมีเป้าหมายสำคัญ 2 ประการ1.ป้องกันไม่ให้มีการแพร่ระบาดเพิ่มมากกว่าที่ผ่านมา และ2.ฟื้นเศรษฐกิจให้กลับมาเหมือนเดิม
อย่างไรก็ตาม การจะบรรลุเป้าหมายหลังคลายล็อกแบบทางสายกลางได้ ทุกฝ่ายต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำทางราชการ ตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ทั้งการรักษาระยะห่างทางสังคม การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา การล้างมือบ่อยๆ การไม่เข้าไปในสถานที่เสี่ยงหรือพื้นที่กลุ่มเสี่ยง เพราะถ้าไม่เคร่งครัดจริงจัง ก็อาจมีการแพร่ระบาดรอบ 2 เกิดขึ้นได้เหมือนบางประเทศ

นายองอาจ กล่าวด้วยว่า เพื่อให้ประชาชนตื่นตัวปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอยู่ตลอดเวลา รัฐบาลควรรณรงค์อย่างต่อเนื่องด้วยคอนเซปต์"สวมหน้ากากผ้า รักษาระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ" โดยผู้เชี่ยวชาญมืออาชีพ มาวางแผนรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลกยุคโซเชียลนอกจากนั้นภาครัฐควรจัดให้มีอาสาสมัครเฉพาะกิจจิตอาสา ช่วยเป็นหูเป็นตา ประสานทางราชการ เพื่อให้มีการปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ อย่างจริงจัง
"ถ้าทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจกันอย่างเต็มที่ ช่วยกันทำให้การคลายล็อกเฟส 2 ผ่านไปได้ด้วยดีไม่มีปัญหาใดๆ ก็เชื่อมั่นว่าการคลายล็อกในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เช่น โรงหนัง โรงละคร สนามมวย สนามกีฬา ผับ บาร์ คาราโอเกะ ก็อาจจะคลายล็อกตามมาได้ในไม่ช้า และอาจจะปลดล็อกให้บ้านเมืองกลับสู่สภาวะปกติได้ในที่สุดการที่เศรษฐกิจ สังคมจะกลับคืนมาสู่สภาวะปกติแบบ New Normal หรือความปกติใหม่ได้ ก็ขึ้นอยู่กับทุกภาคส่วน คนไทยทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง"นายองอาจ ระบุ

logoline