svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เลขาฯสมช.รับมีโอกาสขยับเวลาเคอร์ฟิวเป็น5ทุ่ม

14 พฤษภาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"เลขาธิการ สมช."เผยคลายล็อกมาตรการเฟส 2 เป็นไปตามสื่อนำเสนอ ยันเปิดแน่ห้างสรรพสินค้า เว้น"โรงภาพยนตร์-โรงเรียนกวดวิชา" แย้มข่าวดีมีโอกาสขยับเคอร์ฟิวเป็น 23.00 น. รับยังห่วงพฤติกรรมประชาชนหย่อนยาน อาจพาโควิด-19 ระบาดซ้ำระลอก 2 ยากควบคุม

(14 พฤษภาคม 2563) พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เปิดเผย ภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เรียกประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. ชุดเล็ก เพื่อนำมติที่ประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลาย การบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด -19 ) ในครั้งที่ 1/2563
โดยเมื่อวานนี้ (13พ.ค.) ได้รายงานต่อนายฯว่า การประชุมในวันนี้ถือว่าไม่ใช่การประชุมที่เป็นทางการแต่อย่างใดซึ่งทิศทางการคลายล็อกเป็นไปตามที่สื่อมวลชนนำเสนอไปบ้างแล้ว ด้วยการเปิดห้างสรรพสินค้า อาจมีการปิดบางแผนก แต่ส่วนใหญ่จะเปิดหมดเกือบทุกกิจการภายในห้าง เว้นแต่กิจกรรมที่มีความเสี่ยง อย่างโรงภาพยนตร์ คาราโอเกะ ตู้เกมส์ โรงเรียนกวดวิชา ที่ต้องสั่งห้ามเปิดไปก่อน และทางห้างสรรพสินค้าต้องปิดภายในเวลา 21.00 น.
ส่วนการประกาศลดเวลาเคอร์ฟิวนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการร้องขอของผู้ประกอบการ แต่ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ ศบค. ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (15พ.ค.) นายกฯจะพิจารณาอีกครั้งในที่ประชุมศบค.ชุดใหญ่ ซึ่งการปรับเวลาเคอร์ฟิวจะปรับตามกิจกรรมหรือกิจการที่คลายล็อกออกมาเป็นตัวตั้ง ซึ่งจะไม่มากไปกว่าเดิม และมีโอกาสเป็นไปได้ที่จะเลื่อนขยายประกาศเคอร์ฟิว จากเวลา 22.00-04.00 น. เป็นเวลา 23.00 -04.00 น. แต่ท้ายที่สุดต้องรอความคิดเห็นในที่ประชุมก่อน ซึ่งผลที่ออกมาจะเป็นบวกอย่างแน่นอน และเคอร์ฟิวเองจะไม่เข้มข้นไปกว่าเดิม

พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวต่อว่าขณะยังคงมีความเป็นห่วงสถานการณ์ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะลดน้อยลง แต่ยังไม่สามารถวางใจได้ เนื่องจากมีอีกหลายประเทศหลังคลายล็อก กลับมีการติดเชื้อในระลอกที่ 2 ซึ่งจะยิ่งยากต่อการควบคุม โดย ศบค.จะค่อยๆคลายล็อกในแต่ละเฟสด้วยความระมัดระวังที่สุด รวมไปถึงยังห่วงความหย่อนยานของประชาชน หลังการคลายล็อก โดยเฉพาะมาตรการป้องกันตนเอง และการมั่วสุมชุมนุมกัน
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่จะลงไปตรวจเข้มมากขึ้นทั้งในกรุงเทพมหานคร และพื้นที่ต่างจังหวัด เพราะสถิติที่พบไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดนั้นยังคงมีอยู่ แต่ยังเชื่อว่าส่วนคนส่วนใหญ่ในประเทศให้ความร่วมมือดีจึงต้องมีการผ่อนปรนมาตรการลง ส่วนด้านการเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัดจะยังเข้มข้นเช่นเดิมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการพิจารณาคลายล็อกในกิจการต่างๆวันพรุ่งนี้ มาพิจารณาร่วมเช่นกันว่าจะคงเดิมหรือผ่อนคลายลง

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าฝ่ายความมั่นคงได้ออกตรวจสอบการเตรียมความพร้อมของผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า พบว่าบางแห่งมีมาตรฐานดีเป็นที่น่าพอใจ และหากทำได้ทุกห้างแบบเดียวกันก็จะเป็นเรื่องดี ทว่า ยังมีความกังวลบางห้างยังไม่ดีเท่าควร ซึ่งต้องมาออกแบบกันอีกครั้ง เพื่อให้เป็นไปในทิศทางเเละมาตรฐานเดียวกัน และคาดว่าจะให้ห้างเปิดบริการได้ ระหว่างเวลา 10.00-21.00 น. โดยเริ่มวันที่ 17 พ.ค.นี้
สำหรับแอพพลิเคชัน "ไทยชนะ" จะเป็นผลดีสำหรับประชาชนและผู้ประกอบการ โดยจะบันทึกการใช้บริการสถานที่ต่างๆ ของแต่ละคน หากพบว่าใครสุ่มเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ผู้ที่อยู่ในช่วงเวลาเเละสถานที่ดังกล่าวจะได้ทราบ และรับมือได้ถูกว่าควรจะทำอย่างไรต่อไป นอกจากนี้ยังสามารถตรวจสอบได้ด้วยว่า จำนวนคนที่ไปใช้บริการในห้างมีเท่าใด เหลือเข้าได้อีกกี่คน ถ้าออกจากบ้านไป จะสามารถเข้าใช้บริการได้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าแอพพลิเคชันดังกล่าว จะไม่ละเมิดสิทธิข้อมูลส่วนตัวของแต่ละคน เพราะใช้สำหรับการควบคุมโรค

logoline