การประชุมช่วงบ่ายวันนี้ จะมีการพิจารณาผลประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจพิจารณาผ่อนคลายการบังคับใช้มาตรการในการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ที่ประชุมกันไปเมื่อวาน ซึ่งมี พลเอกสมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เป็นประธาน และใช้เวลาหารือกันนานถึง 6 ชั่วโมง
วงประชุมเมื่อวานมีประเด็นเกี่ยวกับความพร้อมในการเปิดห้างสรรพสินค้า ซึ่งมีการรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่ามีความพร้อมร้อยละ 80-90 จึงน่าจะอนุญาตให้เปิดบริการได้ แต่ไม่ใช่ทุกแผนก ส่วนมาตรการการ "ซีลประเทศ" หรือปิดด่านพรมแดน และปิดสนามบินเพื่อห้ามชาวต่างชาติเข้าประเทศ ยกเว้นคนไทยที่เดินทางกลับมาตุภูมินั้น เสนอให้ขยายเวลาต่อไป
สำหรับประเด็นที่วงประชุมของนายกฯ จะเคาะตัดสินใจช่วงบ่ายวันนี้ คือการคลายล็อกเปิดกิจการและกิจกรรม 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตประจำวัน เช่น โรงอาหารในอาคาร ห้างสรรพสินค้า ร้านเสริมสวย ร้านทำเล็บ กลุ่มกิจการเกี่ยวกับการออกกำลังกาย และการดูแลสุขภาพ เช่น คลินิกเสริมความงาม สนามกีฬา นวดแผนไทยเฉพาะนวดเท้า และกลุ่มกิจกรรมที่เกี่ยวกับการประชุม การถ่ายทำรายการโทรทัศน์ การถ่ายโฆษณา แต่ต้องจำกัดจำนวนคน
นอกจากนั้นยังมึการพิจารณาขยายเวลาเคอร์ฟิว จาก 4 ทุ่มเป็น 5 ทุ่มด้วย เพื่อให้ร้านอาหารและห้างสรรพสินค้าสามารถเปิดบริการได้นานขึ้น คุ้มค่ากับการดำเนินกิจการ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรขึ้นกับที่ประชุม