svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

อดีตขุนคลังแนะรบ.เยียวยาผู้กระทบโควิดตามข้อมูลบัตรปชช.

09 พฤษภาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง"ติงรัฐบาลใช้วิธีการจ่ายเยียวยา"ชักช้า-ยุ่งยาก-ไม่เท่าเทียม" แนะชดเชยผู้ที่มีข้อมูลตามบัตรประชาชนไทย จะตรงถึงกลุ่มเป้าหมายเดือดร้อนจริง

(9 พฤษภาคม 2563 ) ศาสตราจารย์ ดร.สุชาติ ธาดาธำรงเวช อดีต รมว.คลัง ระบุว่า วิธีการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เหมาะสมและรวดเร็ว คือ การใช้บัตรประชาชนเพราะข้อมูลมีอยู่ครบถ้วนแล้ว และคนไทยทุกคนต้องได้รับเงินชดเชยเท่ากันอย่างถ้วนหน้า ซึ่งการที่รัฐบาลใช้เงินจำนวนมากถึง 1.9 ล้านล้านบาท คิดเป็น 11.4% ของผลผลิตของชาติ (GDP) เพื่อแก้วิกฤตโรคระบาดโควิด-19 โดยเป็นเงินกู้ถึง 1 ล้านล้านบาท ประชาชนไทยทุกคน จะร่วมกันเป็นหนี้เพิ่มขึ้น ซึ่งจะต้องเก็บภาษีในอนาคตมาใช้คืน
ทั้งนี้ รัฐบาลมีเป้าหมายกู้เงิน เพื่อมาชดเชยเยียวยาประชาชน 600,000 ล้านบาท และฟื้นฟูเศรษฐกิจ 400,000 ล้านบาท แต่วิธีการเยียวยาของรัฐบาลมีเงื่อนไขยุ่งยาก ทำให้การชดเชยประชาชนแต่ละคนไม่เหมือนกันและไม่เท่ากัน เช่น การให้ประชาชนที่ค้าขายทำงานเอง และแรงงานที่ไม่อยู่ในระบบประกันสังคม คนละ 5,000 บาทต่อเดือน เป็นเวลา 3 เดือน

อย่างไรก็ตาม มีประชาชนลงทะเบียนกว่า 28 ล้านคน ซึ่งเดิมรัฐบาลจะให้ 9 ล้านคน แต่หลังๆ มานี้ รัฐบาลได้เพิ่มผู้มีสิทธิ์เป็น14 ล้านคน แล้วก็เพิ่มเป็น 16 ล้านคน เนื่องจากเงื่อนไขมาก จึงเกิดความล่าช้าไม่ทันกาล ในขณะที่ประชาชนไม่มีรายได้ไม่มีกิน และการชดเชยแรงงานในระบบประกันสังคมก็ยิ่งยุ่งยากล่าช้าและไม่เท่าเทียม ส่วนเกษตรกรกลับชดเชยให้เป็นครอบครัวซึ่งลักลั่นและแตกต่างกับกรณีเยียวยาทั่วไป จึงไม่มั่นใจวิธีการและที่มา หรือฐานคิดที่ใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ
"เหตุและความเดือดร้อน หรือ ผลกระทบที่เกิดจากวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 มีทั่วโลก และคนไทยทุกคนก็ได้รับผลกระทบที่ไม่แตกต่างกัน ดังนั้น รัฐบาลจึงควรชดเชยทุกคนเท่ากันทันที ไม่ยุ่งยาก ไม่ล่าช้า ไม่มีเงื่อนไขมาก และการให้เงินชดเชยไม่เท่ากัน จะทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรม อีกทั้ง ทุกคนรับรู้และรู้สึกได้ทั่วกันอย่างเสมอหน้า ดังนั้น ทุกคนที่ถือบัตรประชาชนไทยควรได้เงินชดเชยเท่ากันทุกคน"อดีต รมว.คลัง กล่าว

logoline