"จตุพร"แนะกระจายรับเรื่องเยียวยา 5 พันไปต่างจังหวัด เพื่อความสะดวก ปชช.

นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า การที่กระทรวงการคลังเปลี่ยนสถานที่รับคำร้องเรียนสิทธิ์เยียวยาเงิน 5,000 บาท มาใช้พื้นที่กรมประชาสัมพันธ์นั้น มองว่าในระยะยาวคงไม่เพียงพอรองรับคนและต้องแออัดกันตามเดิม เพราะเมื่อคนจนทยอยกันมาต่อเนื่อง ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้สถานที่กรมประชาสัมพันธ์ คนยังมายื่นคำร้องมากขึ้นทุกวัน ถ้าไม่เปลี่ยนวิธีรับเรื่องร้องเรียนกันใหม่ โดยกระจายไปที่ศาลากลางทุกจังหวัด แล้วแตกลงไปถึงที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง ซึ่งจะทำให้เพียงพอต่อการรองรับผู้มาร้องเรียนเงินเยียวยา และสนองความเดือดร้อนได้อย่างทั่วถึง
"การทำกรมประชาสัมพันธ์กลายเป็นตลาดนัดคนจนในวันนี้ สะท้อนถึงคนจนมีมากจริงๆ หากวันถัดๆไปคนมากันมากแล้ว อาจกระทบกระทั่งระหว่างกัน พร้อมก่อเกิดเรื่องอารมณ์กับเจ้าหน้าที่ขึ้นได้ทุกขณะ เมื่อวันนี้ผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่เพิ่มขึ้นน้อยลงมาก ดังนั้น ควรคิดอ่านกันว่า จะอยู่และรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 อย่างไร โดยให้ชีวิตเศรษฐกิจและสังคมสามารถใช้ได้ตามปกติ เพราะการเยียวยาเงินเป็นแค่การช่วยประทังชีวิตชั่วคราวไม่ได้ยั่งยืน ดังนั้น อนาคตต้องเน้นพุ่งเป้าไปสู่การทำสงครามกับความยากจน หากรัฐบาลไม่มีปัญญาคิดแล้ว บรรดาเจ้าสัว 20 เศรษฐี ควรเสนอแนะแนวทางให้รัฐบาลได้เห็นสิ่งต้องปฎิบัติ" ประธาน นปช. กล่าว

นายจตุพร กล่าวต่อว่า ส่วนการที่กรมราชทัณฑ์ให้ นายสรยุทธ์ สุทัศนจินดา อดีตผู้ประกาศชื่อดัง มาจัดรายการ "เรื่องเล่าชาวเรือนจำ" นั้น มองว่าเป็นแนวคิดถูกต้อง เพื่อให้ชาวเรือนจ ำได้ฟังข่าวสารผ่านการเล่าของนักจัดรายการข่าวชื่อดัง เพราะชีวิตของนักโทษ คนคุกในเรือนจำนั้น จะรับรู้เรื่องราวของบ้านเมืองนอกคุกด้วยการบอกเล่าจากคนมาเยี่ยมเท่านั้น 
นอกจากนี้ การติดตามข่าวจากหนังสือพิมพ์ ซึ่งมีเพียง 1 ฉบับแต่ละวัน และข่าวยังล่าช้า 1 วันด้วย ในสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ข่าวสารในคุกถูกคุมเข้ม ญาติห้ามเยี่ยม ดังนั้น การจัดรายการดังกล่าวจึงเป็นวิธีที่ถูกเวลา ถูกสถานการณ์ เป็นหลักคิดถูกต้อง และส่วนตัวเคยได้ฟังสัมภาษณ์ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ที่ยึดหลักการคืนนักโทษกลับสู่สังคมว่า ต้องไม่คืนคนเดิมกลับสู่สังคม ซึ่งเป็นวิธีที่ถูกต้อง เพราะลดนักโทษในคุก พร้อมทั้งชื่นชม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เสนอทำเตียงนอน 2 ชั้นในคุก ก็เป็นวิธีแก้ปัญหาการแออัดของคนคุกได้ตรงเป้า
"การจัดเรื่องเล่าชาวเรือนจำในสถานการณ์โควิดนั้น อย่างน้อยคนคุกจะได้รู้ว่า โควิดไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด และยังรู้วิธีป้องกัน ซึ่งทำให้คนคุกผ่อนคลายบรรยากาศได้ระดับน่าพอใจ และเป็นเรื่องควรต้องได้รับความชื่นชม น่ายกย่อง"นายจตุพร กล่าว