อยู่เฉยๆ!ปชป.ติงคนต้านศบค.ให้หยุดแถลงข่าวควรนิ่งๆจะดีกว่า

(2 พฤษภาคม 2563) นางดรุณวรรณ ชาญพิพัฒนชัย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับผู้ต้องการให้ "ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19" ยุติการแถลงข่าวเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ เนื่องจากสถานการณ์การระบาดโรคโควิด-19 ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเหลือตัวเลขผู้ติดเชื้อเพียงเลขตัวเดียวติดต่อกันเกิน 3 วัน เนื่องจากเห็นว่าการให้ข้อมูลข่าวสารกับประชาชนเป็นสิ่งจำเป็นต้องทำเพราะเป็นส่วนหนึ่งในการที่จะช่วยลดการระบาด
ทั้งนี้ หากประชาชนมีความเข้าใจถึงความสำคัญในการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการติดเชื้อ หรือการแพร่ระบาด ก็จะให้ความร่วมมือกับภาครัฐในการออกมาตรการต่างๆ มาช่วยแก้ไขปัญหาทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ดังนั้น การจะหยุดแถลงข่าวเมื่อใดนั้นคงต้องดูจากสถานการณ์โดยรวมอีกที และไม่จำเป็นต้องเร่งรีบ เพราะไม่ได้ใช้งบประมาณเพิ่มเติมในการทำงาน และหากจำเป็นต้องใช้ ก็ถือมีความจำเป็นและเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวได้รับทราบข้อมูลจากทีมโฆษก ศบค. ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิท่านหนึ่งของทีม ก็ยิ่งรู้สึกชื่นชมผู้ปฏิบัติงานทุกคน เนื่องจากการแถลงข่าวประจำวันของ ศบค. นั้น "ไม่ได้ใช้งบประมาณเพิ่มเติมใดๆ บุคลากรแทบทุกคนตั้งแต่โฆษกฯ คือ นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน ทีมงานโฆษก และฝ่ายสนับสนุน ล้วนเป็นข้าราชการสังกัดหน่วยงานต่างๆ ของรัฐอยู่แล้ว ซึ่งมารวมกันปฏิบัติงานเฉพาะกิจในครั้งนี้
ส่วนบางคนที่ไม่ได้เป็นข้าราชการ ก็มีหนังสือถึงต้นสังกัดเพื่อขอตัวมาช่วยราชการ ซึ่งทุกแห่งก็ยินดีอนุญาต และการประชุมทั้งหมดตั้งแต่เริ่มตั้งศูนย์เป็นต้นมา ไม่เคยมีการเบิกจ่ายเบี้ยประชุมใดๆทั้งสิ้น แก่ผู้เข้าประชุม และส่วนตัวท่านโฆษกฯ จะมีการประชุมอย่างน้อย 2-3 ครั้งต่อวัน เพื่อรับทราบข้อมูล คือ เช้า-ก่อนแถลง-บ่าย โดยไม่เคยเบิกเงินจากทางราชการเลยแม้แต่บาทเดียว

รองโฆษกพรรค กล่าวต่อว่า เป็นสิ่งที่น่าชื่นชมอย่างยิ่ง คือ ตั้งแต่ตั้ง ศบค. ขึ้นมา ทีมงานต้องเสี่ยงโรคภัยเดินทางมาทำงานทุกวัน ในขณะที่คนส่วนใหญ่อยู่บ้าน ทุกคนอาสามาช่วยชาติกันด้วยใจ ทั้งที่มีงานประจำอื่นด้วยต้องทำ แต่ก็เสียสละเวลามาทำหน้าที่เพื่อทำประโยชน์ให้ประเทศชาติ ในการแจ้งข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง สร้างความเข้าใจให้กับประชาชนจำนวนมากเกี่ยวกับสถานการณ์และมาตรการของรัฐ จนสถานการณ์มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างที่ทุกคนรับทราบ
"พรรคประชาธิปัตย์ขอเป็นกำลังใจให้ทีมโฆษกในการทำหน้าที่ อยากให้ทุกคนเป็นกำลังใจให้กันและกัน ลดการตำหนิ ให้ร้ายบั่นทอนกำลังใจของคนทำงานเพื่อเราและคนส่วนใหญ่ บางทีการอยู่เฉย ๆ อาจเป็นการช่วยชาติได้มากกว่า ส่วนตัวคิดว่านายกรัฐมนตรี รัฐบาลและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเดินหน้ามาถูกทางแล้ว ในการทำหน้าที่อย่างเข้มแข็งในการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่เดือดร้อนจากสถานการณ์โควิด แม้จะมีเสียงตำหนิติเตียนบ้าง อยากให้ทุกฝ่ายอดทน เพื่อให้ผ่านพ้นสถานการณ์วิกฤตนี้ไปด้วยกัน" นางดรุณวรรณ กล่าว