svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

กรมสุขภาพจิตชี้ ปม "ฆ่าตัวเอง" ไม่ได้มาจากปัจจัยเดียว

27 เมษายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กรมสุขภาพจิต ชี้ ปม"การฆ่าตัวตาย"ไม่ได้มาจากปัจจัยเดียว แต่มีความสลับซับซ้อนและเกิดจากกลุ่มปัจจัยที่มีการซ้อนทับกัน โดยปัญหาที่เป็นปัจจัยร่วมที่พบได้บ่อยที่สุดคือ ปัญหาความสัมพันธ์ รองลงมาเป็น การใช้สุรา โรคทางกาย โรคจิตเวช และปัญหาเศรษฐกิจ

วันนี้ (27 เม.ย.)นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิตกล่าวถึงกรณีบทความที่มีการเผยแพร่เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2563ซึ่งจัดทำโดยคณะผู้วิจัยโครงการวิจัยคนจนเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปในสังคมเมืองที่เปลี่ยนแปลงในหัวข้อ "การรวบรวมข้อมูลผู้เสียชีวิตและคนที่"ฆ่าตัวตาย"จากไวรัสโควิด-19และข้อเสนอแนะ" ซึ่งมีลักษณะคล้ายการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์วิจัย
กรมสุขภาพจิตได้นำบทความวิจัยนี้มาประเมินอีกครั้งโดยนักวิชาการที่เชี่ยวชาญการวิจัยด้านสุขภาพจิตและพบข้อสังเกตจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับระเบียบวิธีวิจัยและความถูกต้องของเนื้อหาซึ่งอาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดของประชาชนได้ จึงขอชี้แจงข้อสังเกตดังนี้
1.งานวิจัยนี้เป็นเพียงบทวิเคราะห์สื่อและการนำเสนอปัจจัยสาเหตุจากมุมมองของสื่อมวลชนซึ่งไม่สามารถนำมาใช้เป็นตัวแทนหรือใช้เป็นข้อเท็จจริงที่สะท้อนปัญหาการฆ่าตัวตายในสังคมไทยได้เนื่องจากโดยปกติแล้วงานวิจัยด้านสุขภาพจิตต้องใช้นักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญในการเก็บข้อมูลปัจจัยด้านสุขภาพจิต
2.การนำเสนอและวิเคราะห์เลือกแสดงข้อมูลเพียงเดือนเมษายนเท่านั้นโดยขาดการเปรียบเทียบกับข้อมูลการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายของประชากรในเดือนก่อนหน้านี้และการนำข้อมูลเปรียบเทียบกับการเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 นั้นก่อให้เกิดการตีความและความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
3.การอภิปรายผลการวิจัยโดยขาดการทบทวนวรรณกรรมหรืองานวิจัยสุขภาพจิตที่มีมาก่อนหน้านี้รวมถึงไม่อยู่บนพื้นฐานทฤษฎีด้านสุขภาพจิตอาจสร้างความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอย่างมากให้ประชาชน
โดยการกล่าวถึงความเชื่อมโยงระหว่างปัญหาการฆ่าตัวตายกับปัจจัยใดเพียงปัจจัยเดียวนั้นไม่สามารถทำได้เพราะจากการวิเคราะห์ข้อมูลการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายสำเร็จ ปี 2561-2562 พบว่าปัญหาการฆ่าตัวตายนั้นมีความสลับซับซ้อนและเกิดจากกลุ่มปัจจัยที่มีการซ้อนทับกันโดยปัญหาที่เป็นปัจจัยร่วมที่พบได้บ่อยที่สุดคือ ปัญหาความสัมพันธ์ รองลงมาเป็นการใช้สุรา โรคทางกาย โรคจิตเวช และปัญหาเศรษฐกิจซึ่งในช่วงปี 2563 นั้นกรมสุขภาพจิตได้ทำการคาดการณ์ว่าตัวเลขการฆ่าตัวตายในประเทศไทยอาจสูงมากขึ้นกว่าค่าเฉลี่ยในทุกปีตามกลไกทางจิตวิทยาสังคมที่อยู่ในภาวะวิกฤต
และปัจจัยด้านเศรษฐกิจจะมีบทบาทมากขึ้นและอัตราส่วนที่สูงขึ้นแต่ทั้งนี้ปัจจัยต่างๆเหล่านี้ไม่ใช่ปัจจัยเดี่ยว โดยกลุ่มปัญหาความสัมพันธ์ (เช่นการทะเลาะกับคนใกล้ชิด ความน้อยใจ ความหึงหวง)มักเป็นปัจจัยที่พบร่วมด้วยมากที่สุด อาจกล่าวได้ว่าหากบุคคลใดต้องเผชิญกับปัญหาส่วนตัวอย่างรุนแรง แต่มีทักษะการปรับตัวมีความยืดหยุ่น และมีคนที่เข้าใจอยู่รอบข้างก็จะเป็นปัจจัยปกป้องช่วยลดความเสี่ยงในการฆ่าตัวตายได้อย่างดี
ซึ่งการเผยแพร่ข้อมูลที่มีเนื้อหาระบุว่าปัจจัยใดเพียงปัจจัยหนึ่ง เช่นเศรษฐกิจหรือนโยบาย เป็นเหตุแห่งการเสียชีวิตจากการฆ่าตัวตายนั้นอาจก่อให้เกิดการมองข้ามความสำคัญในการจัดการกับปัจจัยอื่นๆที่มีร่วมหรือมองข้ามการใช้ปัจจัยความเข้มแข็งอื่นเป็นเครื่องป้องกันปัญหาการฆ่าตัวตายในสังคมไทย
ทั้งนี้กรมสุขภาพจิตมองว่าเป็นเรื่องที่ดีที่นักวิจัยจากหลากหลายสาขาให้ความสนใจในการทำงานวิจัยด้านสุขภาพจิตตรงกับเป้าหมายของกรมสุขภาพจิตที่ดำเนินงานผลิตผลงานวิจัยที่มีคุณภาพมาโดยตลอด ซึ่งหากข้อมูลมีความถูกต้องตามหลักวิชาการและเกิดจากการทำวิจัยบนระเบียบวิธีวิจัยที่ได้มาตรฐานแล้วจะเกิดประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศชาติเป็นอย่างมาก
กรมสุขภาพจิตจะยังคงดำเนินการติดตามปัญหาเรื่องการฆ่าตัวตายในสังคมไทยอย่างใกล้ชิดต่อเนื่องและทำงานเชิงรุกประสานกับภาคประชาสังคมในการจัดการปัญหาในทุกมิติที่อาจนำไปสู่การสูญเสียในสังคมไทยต่อไป

logoline