"อ.เจษ" เผย แผนไฟจราจร เพื่อออกจากวิกฤตล็อคดาวน์โรคโควิด-19"

ตอนนี้ ในหลายประเทศก็เริ่มถกเถียงกันถึงเรื่อง exit strategy หรือยุทธศาสตร์ในการถอนตัว จากสถานการณ์ที่ติดหล่มอยู่กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้ผู้คนต้องล็อคดาวน์ปิดเมือง มากันนานนับเดือนแล้ว

ที่ประเทศอังกฤษ ตอนนี้ก็มีการเริ่มพูดถึง traffic light system หรือการแบ่งระดับของการผ่อนคลายการล็อคดาวน์ ออกเป็นขั้นๆ 3 ขั้น เหมือนกับไฟแดง-ไฟเหลือง-ไฟเขียว เลยเอามาให้ลองอ่านกันดู เผื่อเป็นไอเดียมาปรับใช้กับบ้านเราบ้างนะครับ
ประเด็นสำคัญ คือ ของไทยเราเอง ไม่ค่อยจะพูดชัดเจนว่า ถ้าจะปิดเมืองหรือเปิดเมือง จะต้องทำอะไรบ้าง กิจกรรมไหนจะได้เปิดก่อน หรืออันไหนต้องห้ามเปิดอีกนาน
#ช่วงไฟแดง : ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคมนี้ จะเริ่มกลับมาใช้ชีวิตปรกติกันบางส่วน อย่างมีข้อจำกัด
- เปิดร้านขายของขนาดเล็ก ของสินค้าที่ไม่จำเป็นนัก เช่น เสื้อผ้า อุปกรณ์ทำสวน (จากที่ก่อนหน้านี้ให้เปิดแต่เฉพาะร้านที่ขายของใช้จำเป็น) โดยต้องมีมาตรการป้องกันโรคสำหรับลูกค้า
- งานบริการ อย่างพวกเนอสเซอรี่และร้านตัดผม สามารถเปิดได้
- รถไฟ กลับมาใช้ได้ตามปกติ แต่ผู้โดยสารจะถูกขอให้ต้องใส่หน้ากากอนามัย
- แต่สาธารณชน ยังถูกขอร้องไม่ให้เดินทางกันโดยไม่จำเป็น
- โรงเรียนจะกลับมาเปิดใหม่ โดยโรงเรียนประถมและมัธยม จะเปิดแบบพาร์ตไทม์ในช่วงแรก
#ช่วงไฟเหลือง : ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม เป็นช่วงชีวิตมีอิสระมากขึ้น และให้เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น
- บริษัทที่มีพนักงานน้อยกว่า 50 คน จะได้รับอนุญาตให้เปิดได้
- นักเรียนจะได้กลับไปโรงเรียนการปกติ แต่จะต้องคอยเฝ้าระวังเรื่อง social distancing ระยะห่างทางสังคม
- ร้านอาหารจะได้รับอนุญาตให้ลูกค้าเข้าไปนั่งได้ โดยต้องมีมาตรการเพื่อจำกัดระยะห่างระหว่างลูกค้าแต่ละคน
- ผู้โดยสารระบบขนส่งสาธารณะจะต้องใส่หน้ากากอนามัย
#ช่วงไฟเขียว : ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน จะมีอิสรภาพอย่างกว้างขวางขึ้น
- สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ อย่าง ฟิตเนสโรงภาพยนตร์ หรือโรงยิม จะกลับมาเปิดได้อีกครั้ง
- โรงยิมสามารถเปิดได้ แต่จะต้องเข้มงวดเรื่องการทำความสะอาดมากขึ้น
- ผับ (ร้านอาหารปนร้านเหล้า แบบอังกฤษ) จะกลับมาเปิดใหม่ โดยมีข้อจำกัดต่างๆ
- กิจกรรมที่มีการชุมนุมผู้คน เช่น งานแต่งงานและงานศพ จะสามารถมีผู้เข้าร่วมได้เป็นจำนวนมากขึ้น
- หน้ากากอนามัยยังจะต้องใส่ บนเส้นทางการขนส่งสาธารณะ
แต่ ! ผู้สูงอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป ยังจะต้องอยู่ห่างจากสังคมไปอีกนาน เพื่อรอให้มีวัคซีนเสียก่อน จึงจะกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้