โดยหุบป่าตาดมีลักษณะเป็นโถงถ้ำขนาดใหญ่ที่ภายในคือผืนป่าที่เต็มไปด้วยต้นตาดและพืชพันธุ์โบราณแปลกตาซึ่งต้นตาดนั้นจัดเป็นไม้ดึกดำบรรพ์ตระกูลเดียวกับปาล์ม เมื่อมาถึงปากทางขึ้นไปยังหุบป่าตาดต้องเสียค่าบริการเข้าชม ชาวไทย ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ 200บาท จะมีบริการมักคุเทศน์น้อยนำทางที่คอยเล่าเรื่องราวของป่าดึกดำบรรพ์แห่งนี้ ซึ่งค่าบริการแล้วแต่นักท่องเที่ยวจะให้ก็ดีนะที่มีน้องๆมาช่วยเราได้ความรู้เกี่ยวกับความเป็นมาของสถานทีและพันธุ์พืชต่างๆได้เข้าใจมากขึ้น ระยะทางการเดินชมธรรมชาติ ประมาณ 700 เมตร ใช้เวลาเดินชมโดยประมาณ30 นาที เจ้าหน้าที่แจ้งรายละเอียดความเป็นมาของถ้ำให้เราพอได้ทราบรายละเอียดเบื้องต้นถึงเวลาต้องเดินแล้วมัคคุเทศก์น้อยเดินนำทางบอกเล่าเกี่ยวกับพันธ์ไม้ข้างทางมาเรื่อยๆตามทางเดินมี ต้นตาดขึ้นปกคลุมหนาแน่นในวงล้อมของผาหินที่มีหินงอกหินย้อย รูปร่างแปลกตา
โดยเริ่มจากเดินผ่านไปยังบันไดทางเดินที่ได้จัดทำไว้มาถีงโถงถ้ำที่มืดสนิท ซึ่งทางเข้าออกทางเดียว ต้องลอดอุโมงค์ถ้ำเข้าไป มัคคุเทศก์น้อยเปิดไฟฉาย บางคนก็ใช้ไฟฉายจากมือถือส่งนำทางเดินฝ่าความมืดเข้าไปภายในถ้ำ มัคเทศก์น้อย ฉายไฟให้นักท่องเที่ยวได้ดูหินย้อยตามผนังถ้ำบางที่มีค้างคาวเดินลอดอุโมงค์ถ้ำหินแสงสว่างอีกฟากหนึ่งของถ้ำทำให้ความรู้สึกเหมือนกำลังย้อนยุคเข้าไปอยู่ในยุคไดโนเสาร์เลยที่เดี่ยวเบื้องหน้ามองเห็นเป็นเขาหินปูนกับป่าดงดิบขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยต้นตาดมากมาย (ต้นตาดคือต้นไม้โบราณเป็นพันธุ์เดียวกับปาล์ม) และแปลกตาไปด้วยพันธุ์ไม้ต่างๆ
เดินเข้ามาเกือบสุดเส้นทางจะพบกับถ้ำอีก 1 ถ้ำแบบเปิดโล่งพอเห็นแสง มีหินงอกหินย้อย และหินปูน ซึ่งลวดลายหินที่งดงาม หากมาเที่ยวในช่วงกลางวันจะมีแสงอาทิตย์สาดส่องลงมากลางหุบที่ล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูนสูงชันจากถ้ำก็มาถึงทางเดินเล็กๆซึ่งเต็มไปด้วยป่าตาดเช่นกัน โดยเมื่อมาถึงตรงจุดนี้ลักษณะทางเดินจะเป็นการเดินกลับไปยังเส้นทางเดิม ระหว่างทางก็จะได้เห็นต้นไม้แปลกหลายชนิดแต่ถ้าใครเดินทางมาเที่ยวในช่วงฤดูฝนตั้งแต่ประมาณเดือนสิงหาคม พฤศจิกายน ท่านจะได้พบกับเจ้ากิ้งกือมังกรสีชมพูมีลักษณะโดดเด่นของมันมีลวดลายและปุ่มหนามคล้ายมังกรพบได้ในป่าที่มีความชุ่มชื้นสูงและอุดมสมบูรณ์ เมื่อโตเต็มที่จะมีลำตัวยาวประมาณ 7เซนติเมตร ถือว่า เป็นสัตว์ที่หาดูได้อยากมากท่านจะพบเห็นแห่งเดียวในโลกได้ ที่หุบป่าตาดแห่ง แต่ต้องคอยสังเกตให้ดีนะเพราะตัวเล็กมาก น้องมัคคุเทศก์น้อยๆของเรายังบอกเล่าอีกว่า ลูกตาดที่เราเห็นเป็นทะลายใหญ่สีดำบนยอดต้นนั้นเนื้อในมีลักษณะคล้ายลูกชิดสามารถนำไปต้มกินได้แต่ไม่เป็นที่นิยมกันเนื่องจากมีเนื้อค่อนข้างน้อยนั่นเองยังแถมท้ายแนะนำสมุนไพรให้เราอีกอย่างอันนี้ "ต้นกระทืบค่ะพี่" เราไม่เคยได้ยินเลยนะว่ามีต้นกระทืบเมียด้วยหรอ "เขาเอาไปใช้ดองเหล้าค่ะหรือส่วนใหญ่เขาเรียกม้ากระทืบโลงค๋ะ" แม้น้องเล่นเสียลูกทัวร์ตามไม่ทันเลย
ท่านใดสนใจจะมาเที่ยวชมและมาอุดหนุนน้องๆมัคคุเทศน์น้อยเชิญดูรายละเอียดเพิ่มเติมตามนี้ครับ
หุบป่าตาด เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 8.30 น. 16.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทยผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ชาวต่างชาติ 200บาทในวันหยุดสุดสัปดาห์จะมีไกด์น้อยมาคอยพานำเที่ยวชมตามค่าบริการแล้วแต่นักท่องเที่ยวจะให้
ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเที่ยวหุบป่าตาดคือช่วง 11:00-13:00 น. ซึ่งเป็นช่วงที่แสงส่องลงมายังหุบป่าตาดทำให้เห็นประกายของหินแวววับในโพรงถ้ำสวยงามมากและยาลื่มนำไฟฉายกับยากันยุงมาด้วยนะครับ
สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน โทร. 0-5698-9128