นับว่าเป็นอีกคนในวงการบันเทิงที่น่าจับตาตลอดมา และถือว่าเป็นคนดังอีกคนที่โพสต์แสดงจุดยืน และมีการนำเสนอพร้อมแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอยู่เป็นระยะ

แต่สำหรับในวันนี้ทางอั๋น ภูวนาทคุนผลินพิธีกร ดีเจและนักร้องชื่อดัง ได้โพสต์ภาพผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว@unpuwanartที่ได้ส่งข้อความสื่อสารถึงประเด็น การแจกเงิน5,000บาทของรัฐบาล รวมถึงเรื่องเงินประกันสังคมที่กำลังเป็นประเด็นร้อนแรงมากที่สุดในจณะนี้ที่ประชาชนไทยทั้งประเทศจับตามองในมาตรการนี้และสืบ
เนื่องจากมีประชาชนคนทำงาน คนตกงานจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเนื่องจากพิษของเจ้าวายร้อยโควิด-19ที่ระบาดไปทั่วประเทศและทั่วโลกในทุกวันนี้แม้ว่า ประเทศไทยจะค่อยๆ มีข่าวดี แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกเมื่อไหร่ เศรษฐกิจจะฟื้น และจะดีขึ้นในขณะที่ความเดิอดร้อนของประชาชนทวีความรุนแรงและขายไปในวงกว้างทุกขณะ และทุกคนรอการเยียวยาและการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนในจากลงแต่ก็ประสบเงื่อนไขที่หลายคนไม่สามารถรับได้หรือตกหล่นไปจากการรับสิทธิที่พึงจะได้รับ
มาดูกันที่สำหรับโพสต์เด็ดในวันนี้ทางอั๋น ภูวนาทคุนผลินพิธีกร ดีเจและนักร้องชื่อดัง ได้โพสต์ภาพผ่านอินสตาแกรมส่วนตัว
@unpuwanartได้ตั้งประเด็นไว้ว่า
"จะรำวงกันอีกนานไหมหนอส่วนที่ดีก็ชื่นชมกันไป แต่ทำไมสิ่งนี้ช่างยากเย็น คนเราต้องทานข้าววันละ3มื้อเมื่อน้ำย่อยมันออกมา เมื่อยายย่าลุงป้าลงทะเบียนไม่เป็น กี่วิกฤตการณ์ที่เราอยู่รอดกันมาได้เพราะคนไทยมีน้ำใจซึ่งถ้าไม่มีน้ำใจกันขึ้นมา แปลว่าจะเกิดอะไรขึ้นจ๊ะ อังกฤษปิดเมืองเงินโอนเข้าบัญชีประชาชนทันทีภายใน3วันจะประชุมกันถึงไหนดี.... เราต้องอยู่กับเรื่องแบบนี้อีกกี่ยุคกี่สมัยกันนะ""ปกติทั้งที่ไม่ควรแจกก็เห็นขยันแจกเงินจริงๆทำไมพอถึงคราวที่ควรต้องแจกทำไมแจกยากแจกเย็นนักครับท่าน5,000น่ะควรแจกทุกคน เพราะทุกคนโดนหมดอย่าทำให้ประชาชนรู้สึกคลางแคลงใจเลยว่าที่อุตส่าห์กัดฟันทำงานเสียภาษีและประกันสังคมตลอดมานั้น ได้อะไร เพื่ออะไร หรือเพื่อใครขอคิดอะไรโง่ๆ ง่ายๆ เถอะนะ ถ้าประกันสังคมล้มเหลวก็จ่ายเงินค่าประกันสังคมคืนข้าพเจ้าและที่พวกเราเคยจ่ายไปคืนมาเถิด
อะไรดีก็ว่าดี ส่วนใครยังเป็นFCหลับหูหลับตาชื่นชมได้ก็ขอเชิญเดินไปรวมตัวที่อัศจรรย์สุดท้ายซ้ายมือนะ"
หลังจากที่ข้อความดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากกว่า1,000คอมเมนต์

ต้องรอติดตามกันต่อไป ว่ากระแสแรงๆแบบนี้จะมีใครออกมาคลี่คลายกระแสร้อนๆนี้ให้จางลงไปได้หรือจะมีใครออกมาเกาะประเด็นนี้อีกหรือไม่