เป้าหมายก็เพื่อให้ตรวจสอบพฤติกรรมของกลุ่มบุคคลที่นำโดยนายสุเทพ กับ ว่าที่ ร.อ.อำนาจ (สงวนนามสกุล) เนื่องจากอ้างตัวว่าเป็นคนสนิทและเป็นคณะติดตามของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมแล้วเรียกรับสินบนการขุดลอกแควหนุมาน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
สำหรับพฤติการณ์ของบุคคลทั้งสองนี้ คือ อ้างตัวว่าเป็นคณะทำงานของนายอธิรัฐ โดยได้รับมอบหมายให้ดำเนินโครงการ "ขุดดินแลกน้ำ" ซึ่งหมายถึงการขุดลอกคูคลองและแม่น้ำ เพื่อเปิดทางน้ำ แก้ปัญหาภัยแล้ง โดยผู้รับเหมาที่รับขุด จะได้ดิน หิน ทรายที่ขวางทางน้ำนั้น นำไปขายได้ ถือเป็นการสมประโยชน์ทั้งสองฝ่าย โดยรัฐก็ไม่ต้องเสียงบประมาณ
แต่กลุ่มบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นคณะทำงานของรัฐมนตรี ได้เข้าไปติดต่อเรียกรับเงินเบื้องต้นก่อนทำโครงการ ซึ่งเป็นค่าจ้างขุดลอกดิน โดยโครงการที่แควหนุมาน จ.ปราจีนบุรี มีการประมาณการดินที่จะขุดขึ้นมาราว 170,000 คิว ราคาคิวละ 28 บาท แต่กลุ่มคนกลุ่มนี้ไปเรียกเงินให้ผู้รับเหมาจ่ายคิวละ 45 บาทก่อน เพื่อแลกกับการไม่จำกัดพื้นที่การขุด ผู้รับเหมาก็จะได้ดินส่วนเกินไปขายทำกำไร ขณะที่กลุ่มคนที่ไปติดต่อ ก็จะได้ค่าหัวคิว และยังขอ "เงินทอน" จากการขายดินส่วนเกินอีก 50% รวมๆ แล้วก็หลายล้านบาท โดยมีการแอบอ้างทั้งรัฐมนตรีช่วยคมนาคม มหาดไทย กรมเจ้าท่า และผู้ว่าราชการจังหวัด
เรื่องนี้หลังจากเป็นข่าว ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี พร้อมด้วยนายอำเภอกบินทร์บุรี ได้ส่งนิติกรไปแจ้งความดำเนินคดีกับผู้แอบอ้างแล้ว
ขณะที่ นายนิพนธ์ บุญญามณีรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ก็ได้ส่งทีมทนายไปแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่แอบอ้างเช่นกัน
ข้อมูลจากทีมงานของรัฐมนตรีช่วยมหาดไทย นิพนธ์ บุญญามณี เผยกับเนชั่นทีวีว่า สาเหตุที่กลุ่มคนเหล่านี้ต้องมีการแอบอ้างมาที่รัฐมนตรีช่วยมหาดไทย และมีความพยายามไปถ่ายรูปช่วงที่รัฐมนตรีลงพื้นที่ปราจีนบุรี เมื่อวันศุกร์ที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา ก็เพื่อให้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ จะได้นำไปใช้กดดันให้ผู้ว่าราชการจังหวัดยอมอนุมัติโครงการในพื้นที่ของตน เพราะการจะขุดลอกคลองหรือแม่น้ำได้ ต้องได้รับอนุญาตจากผู้ว่าฯในพื้นที่ก่อน ส่วนตัวโครงการมีการอนุญาตมาตั้งแต่ต้นทาง คือกรมเจ้าท่าแล้ว
สำหรับผลประโยชน์ที่คนกลุ่มนี้จะได้รับ คือ การลักลอบนำดิน หิน หรือทราย ที่ขุดขึ้นมาเกินกว่าที่กำหนดในโครงการ แล้วนำไปขาย ซึ่งจริงๆ แล้วตามกฎหมาย ทั้งดิน หิน ทรายเหล่านี้ ต้องคืนให้กรมเจ้าท่า หากนำไปจำหน่ายแล้วก็ต้องคืนเป็นเงิน เพราะถือเป็นทรัพย์สินของรัฐ (สมมติโครงการตกลงกันไว้ 100,000 คิว หากขุดจริงได้ดินเกิน ก็ต้องคืนดินหรือเงินขายดินส่วนเกินให้กับกรมเจ้าท่า)
แต่คนกลุ่มนี้หวังผลประโยชน์จากการขุดลอกเกินกว่าพื้นที่ที่กำหนดในโครงการ และอาจมีการจ่ายสินบนกับผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งทางมหาดไทยจะดำเนินการตรวจสอบต่อไปว่ามีใครร่วมขบวนการอีกบ้างหรือไม่ แต่ยืนยันว่ารัฐมนตรีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เนื่องจากโครงการนี้ไม่มีการใช้งบประมาณ