ล่าสุดข่าวดังกล่าวก็ส่งไปถึงต้นสังกัดซึ่งตามรายงานเปิดเผยว่าผอ.สพป.ขอนแก่น เขต 5 ได้มีการสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีครูเต้ยไม่มีเวลาสอน จ้างคนอื่นสอนแทน ตามที่เหล่าคนในโลกออนไลน์วิจารณ์กัน ซึ่งหากพบว่าทำเช่นนั้นจริงถือเป็นความผิดวินัยร้ายแรง บทลงโทษ 2 แบบ ปลดออก หรือ ไล่ออก...
โดยเนื้อหาตามรายงานนั้นได้ให้รายละเอียดอีกว่าผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 5 นายวสันต์สัตยคุณ จากประเด็นของครูเต้ยที่พูดถึงกัน ว่า ไม่ค่อยมีเวลามาสอน และทำการจ้างผู้อื่นมาทำการสอนแทนนั้นทางสำนักงานเขตฯ ได้ทราบเรื่องแล้ว และได้จัดตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงโดยมอบหมายให้นิติกรและบุคคลากรที่มีความชำนาญด้านการสอบสวนวินัยเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ
ผอ.สพป. เล่าเพิ่มเติมว่า ทางผู้อำนวยการโรงเรียนต้นสังกัดของครูเต้ยได้รายงานมาที่สำนักงานเขตฯ ว่า แม้ครูเต้ยจะไปทำการแสดงในเวลากลางคืนแต่ตอนเช้าครูเต้ยก็สามารถมาสอนได้ตามปกติ แต่ทางสำนักงานเขตฯ ก็ยังไม่เชื่อจึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาตรวจสอบ และหากตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วพบว่าครูเต้ยไม่ได้สอน และมีการจ้างผู้อื่นมาสอนแทนจริง การกระทำนี้เป็นการกระทำที่ไม่ได้ทำหน้าที่ครูตามจรรยาบรรณวิชาชีพ จะถือว่ามีความผิดทางวินัย"
ซึ่งความผิดทางวินัยแบ่งออกเป็นความผิด 2 ประเภท คือ ความผิดไม่ร้ายแรงที่มาจากการประมาทไม่ตั้งใจ ซึ่งบทลงโทษก็คือ ว่ากล่าวตักเตือน ทัณฑ์บน ลดเงินเดือนและอีกประเภทหนึ่ง คือ ความผิดร้ายแรงมีบทลงโทษคือการปลดออก(ยังมีสิทธิได้รับบำเหน็จบำนาญเสมือนว่าผู้นั้นลาออก)และไล่ออก(ไม่มีสิทธิได้รับบําเหน็จบํานาญ หรือสิทธิ์อื่นใด)"
สุดท้ายแล้วเรื่องราวประเด็นของครูเต้ย ที่มีการตั้งคณะกรรมาการมาสอบสวนนั้นจะออกมาเป็นอย่างไรก็ต้องให้ทางต้นสังกัดค้นหาความจริงแล้วมาสรุปผลให้ฟังกันอีกครั้ง