ทอ. บิน ซี-130 "ขนส่งข้าวชาวนา เปลี่ยนปลาชาวเล"
กองทัพอากาศ จัดเครื่องบินซี-130 ขนส่งข้าวชาวนาเปลี่ยนปลาชาวเล ใช้เวลาเดินทางไม่รวมจอดของสิ่งของ 7 ชั่วโมง โดยข้าวน้ำหนัก 9 ตัน ปลาแห้ง-ปลาเค็ม 1.5 ตัน พร้อมขนสัปปะรดภูงา ให้กองบิน 21 ช่วยจำหน่ายด้วย
กองทัพอากาศ จัดเครื่องบินลำเลียงซี-130 ตามโครงการนำร่อง ทัพฟ้าช่วยไทย ต้านภัยโควิด-19 "ขนข้าวชาวนา เปลี่ยนปลาชาวเล" โดยใช้เส้นทางดอนเมือง - กองบิน 21 - สนามบินภูเก็ต - กองบิน 21 - ดอนเมือง ใช้เวลาเดินทางในอากาศรวม 7 ชั่วโมง (ไม่รวมเวลาจอดในการขนข้าวหรือปลา จากเครื่องบิน) เพื่อเร่งขนส่งข้าวหอมมะลิไปส่งให้ชาวเลหาดราไวย์ จังหวัดภูเก็ตโดยเร็ว และนำปลาแห้ง ปลาเค็มกลับส่งให้กับชาวยโสธร
โดยมี พลอากาศโท ตรีพล อ่องไพฑูรย์ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารอากาศ เป็นหัวหน้าคณะทำงานโครงการทัพฟ้าช่วยไทยฯ ร่วมเดินทางด้วยสำหรับเครื่องบินซี -130 มีขีดความสามารถในการบรรทุกได้ 12 ตัน หรือ 12,000 กิโลกรัม ออกเดินทางออกจากดอนเมือง พร้อมกระเป๋ายังชีพจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ จำนวน 300 ชุด น้ำหนักรวม 2.5 ตัน เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนชาวเกาะยาว ไปรับข้าวหอมมะลิของสมาคมชาวยโสธร จำนวน 9 ตันจากกองบิน 21 จังหวัดอุบลราชธานี แล้วบินขนส่งไปยังสนามบินภูเก็ต เพื่อส่งให้มูลนิธิชุมชนไทนำส่งชาวเลหาดราไวย์ พร้อมส่งกระเป๋ายังชีพจากกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์ให้ทัพเรือภาคที่ 3 นำไปแจกจ่ายให้ประชาชนชาวเกาะยาว จังหวัดพังงา
จากนั้นจึงลำเลียงปลาแห้ง ปลาเค็มน้ำหนัก 1.5 ตัน พร้อมสัปปะรดภูงา จำนวน 3.2 ตัน บินขนส่งไปยังกองบิน 21 เพื่อนำปลาเค็ม ปลาแห้งส่งให้สมาคมชาวยโสธร และให้กองบิน 21 นำสัปปะรดไปช่วยจำหน่าย ก่อนเติมเชื้อเพลิงและเดินทางกลับดอนเมือง โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร อุบลราชธานี ภูเก็ต และพังงา หัวหน้าส่วนราชการของแต่ละจังหวัด และองค์กรท้องถิ่น ให้ความร่วมมือในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยถือเป็นการใช้ประโยชน์เครื่องบิน ซี-130 ให้เกิดความคุ้มค่าสูงสุด
