วันที่ 18 เม.ย.2563 นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก โดยระบุข้อความว่า
เมื่อวันที่ 15 เมษายน 2563 ผมได้ร่วมประชุม ผ่านระบบ VDO conference กับอธิการบดีสถาบันอุดมศึกษาจากทั่วประเทศ จำนวน 156 แห่ง ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมไปถึงมหาวิทยาลัยราชภัฏ และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคล เพื่อรับทราบมาตรการช่วยเหลือนิสิต นักศึกษา อาจารย์ บุคลากร และประชาชนทั่วไปที่มหาวิทยาลัยต่าง ๆ ดำเนินการในช่วงวิกฤตโควิด-19 นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพของนิสิตนักศึกษา และคุณภาพของการเรียนการสอนผ่านระบบออนไลน์เต็มรูปแบบ พร้อมทั้งการสนับสนุนนิสิตนักศึกษาและอาจารย์ให้สามารถใช้ระบบออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พร้อมกันนี้ ผมได้แจ้งให้มหาวิทยาลัยเตรียมพร้อมรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน หากมหาวิทยาลัยต้องถูกปรับเป็นโรงพยาบาลสนามเพื่อรองรับผู้ป่วย หรือเพื่อการกักตัวในพื้นที่ของแต่ละมหาวิทยาลัย โดยให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับทุกภาคส่วน นอกจากนั้น กระทรวง อว. ยังได้ปรับงบประมาณปี 2563 จำนวน 3,000 ล้านบาทมาช่วยประเทศในการสู้ภัยโควิด-19 โดยแบ่งเป็นงบประมาณในการวิจัยและพัฒนาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ที่จำเป็นจำนวน 1,000 ล้านบาท ซึ่งอาจารย์ทุกมหาวิทยาลัยสามารถมีส่วนร่วมในการดำเนินการ และงบประมาณในการเยียวยาช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจจำนวน 2,000 ล้านบาท ผ่านการให้ทุนสำหรับนักศึกษา หรือดึงคนตกงานกลับมาเรียนต่อในมหาวิทยาลัย รวมไปถึงจ้างงานกับบัณฑิตจบใหม่ผ่านโครงการยุวชนสร้างชาติ และอบรมเพิ่มหรือปรับทักษะ (Upskill/Reskill) สำหรับอาชีพหลังโควิด-19 ซึ่งทั้งหมดนี้ มหาวิทยาลัยสามารถร่วมดำเนินการกับกระทรวง อว. ได้
สำหรับกลุ่มนักวิจัย ผมได้มอบนโยบายให้ กสว. และ วช. กำหนดให้โครงการวิจัยที่ได้รับทุนจากอว. ต้องจ้างบัณฑิตจบใหม่เป็นผู้ช่วยวิจัย ไม่ต่ำกว่า10% ของงบฯวิจัยที่ได้ เพื่อรองรับบัณฑิตจบใหม่ที่อาจหางานได้ลำบากในช่วงโควิด-19 ด้วยครับ
การประชุมในครั้งนี้ ทำให้ผมมั่นใจว่านิสิตนักศึกษาทุกคนจะได้รับการดูแลจากมหาวิทยาลัยเป็นอย่างดี และมหาวิทยาลัยจะเป็นกำลังสำคัญของประเทศ ในการฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปได้ครับ
#ประเทศไทยต้องชนะ