นพ.นพดล ไชยสิทธิ์ สูตินรีแพทย์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ออกมาเปิดเผยรายงานการติดเชื้อโควิด-19 ในหญิงตั้งครรภ์ หลังจากโรงพยาบาลได้รับหญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 27 สัปดาห์รักษาอาการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยกรณีศึกษาจากรายงานการรักษาผู้ป่วยที่ตั้งครรภ์มีค่อนข้างจำกัด ส่วนใหญ่เป็นเคสในประเทศจีน เปรียบเทียบข้อมูลจากกลุ่มซาร์ส และเมอร์ส เพราะมีรายงานในการระบาดมาก่อน ซึ่งในรายงานเชื้อโควิด19ระบุว่าโอกาสที่ทารกเสียชีวิตในครรภ์ค่อนข้างน้อย แต่มีโอกาสคลอดก่อนกำหนด
ดังนั้น การดูแลหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อโควิด19ของโรงพยาบาลจุฬาฯ จึงต้องทำงานเป็นทีม มีแพทย์สูติฯ แพทย์เด็ก และแพทย์อายุกรรม ซึ่งการทำคลอดจะพิจารณา 3 ปัจจัย คือ 1.อายุครรภ์ 2.อาการแม่รุนแรง และ3.ทารกอาการไม่ดีต้องทำคลอด
ข้อมูลการทำคลอดผู้ติดเชื้อโควิดของประเทศจีน ใช้วิธีคลอดทางช่องคลอดปกติ ซึ่งแพทย์จะสวมใส่ชุดป้องกันไวรัสเต็มรูปแบบ ส่วนแม่ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยระหว่างคลอด ถ้าแม่มีอาการหายใจลำบากเพราะใส่หน้ากากอนามัย แพทย์สามารถให้ออกซิเจนช่วยหายใจได้ หลังจากคลอดต้องติดตามอาการติดเชื้อในทารก 14 วัน และส่วนใหญ่หลังจากแม่หายแล้ว เด็กไม่ค่อยมีปัญหา
ผศ.นพ.สันติ ปุณณะหิตานนท์ กุมารแพทย์เชี่ยวชาญด้านทารกแรกเกิด โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ บอกว่า คำถามที่พบคือ ไวรัสโควิด19 จากแม่สามารถถ่ายทอดเชื้อไปสู่ลูกได้หรือไม่ ซึ่งมีรายงานสำรวจหญิงตั้งครรภ์ 6 คน พบว่าเด็กไม่ติดเชื้อทั้งหมด อีกทั้งรายงานผลสำรวจหญิงตั้งครรภ์จำนวน 7 คน ก็ไม่พบเชื้อในน้ำนมแม่ และน้ำคร่ำ แต่ก็มีรายงานจากประเทศจีนว่า พบทารกรายแรกติดเชื้อโควิด19 โดยพบในคอหลังจากคลอดได้เพียง 36 ชั่วโมง
ผศ.นพ.สันติ บอกอีกว่า รายงานนี้บ่งชี้ได้ว่าถ้าแม่ติดเชื้อจะถ่ายทอดสู่ลูกได้ แต่ พบในอัตราต่ำ อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามอาการเด็กหลังคลอด เพราะมีโอกาสติดเชื้อได้ สำหรับความคืบหน้าหญิงตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ขณะนี้ยังรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาฯ ไข้ลดลงหลังให้ยา ส่วนอื่นๆ ไม่มีอาการ แพทย์จึงประเมินความรุนแรงยังไม่มาก แต่ต้องเฝ้าติดตามดูอาการใกล้ชิด