svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สธ. เตรียมคุมเข้มค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชน

16 เมษายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

กระทรวงสารณสุข พร้อมเดินหน้าค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชน. พร้อมกับยืนยันว่าไม่ผ่อนปรนมาตรการใดๆ หลังพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด19 รายใหม่ลดลง โดยยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา

นายแพทย์ อนุพงศ์ สุจริยกุล ผู้ทรงคุณวุฒิ กรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย แม้ว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่จะเพิ่มขึ้นในวันนี้ 29คน  แต่หากพิจารณาจากสาเหตุการติดเชื้อ เกินกว่าครึ่ง ติดเชื้อจากการสัมผัสเชื้อกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้  เช่น กรณีผู้เสียชีวิตเป็น ชาย อายุ 37 ปี จังหวัดปราจีนบุรี เสียชีวิตจากการติดเชื้อโคงิด-19 มีโรคประจำตัวคือ ความดันและโรคอ้วน. โดยจากการสอบสวนโรคพบว่า ภรรยาเป็นพนักงานงานร้านอาหารย่าน สุขุมวิท และเมื่อกรุงเทพมหานครมีคำสั่งปิดสถานประกอบการหลายแห่ง ภรรยาได้เดินทางกลับบ้านจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งอาจเป็นสาเหตุการติดเชื้อของผู้เสียชีวิต.  

สธ. เตรียมคุมเข้มค้นหาผู้ติดเชื้อในชุมชน


ทั้งนี้การสอบสวนโรคทางระบาดวิทยาในการค้นหาผู้ป่วยเพิ่มเติม หากพบผู้ป่วยยืนยันอย่างน้อย 1 คนขึ้นจะเริ่มติดตามผู้สัมผัสใกล์ชิด จากนั้นจะเริ่มใช้วิธีค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกหรือ Active case  Finding ซึ่งพื้นที่ที่ได้ดำเนินแล้ว คือจังหวัดภูเก็ต. และเขตบางเขน และเขตคลองเตย กทม.

ซึ่งวิธีนี้ ช่วยทำให้ค้นหาพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และตรวจ. RT-PCR  พบผลบวก ร้อยละ 6.24// ส่วนผู้มีความเสี่ยงต่ำ มีโอกาสที่ผลเป็นบวกน้อยลง และอีกมาตรการต่อไปที่จะใช้ก็คือ การค้นหาในชุมชน เป็นการค้นหากลุ่มตัวอย่าง ไม่จำเป็นจะต้องมีอาการป่วย. โดยจะใช้วิธีตรวจผ่านชุดทดสอบRapid test 
ส่วนในกรณีการเปิดด่านชายแดนไทย-มาเลเซียซึ่งมีผู้เดินทางทยอยเข้าประเทศไทยประมาณ 4,000 คน นายแพทย์ อนุพงษ์ ระบุว่า เป็นไปไม่ได้. หากเข้ามาพร้อมกันจะทำให้การรับสานการณ์ไม่สามารถทำได้ จึงคาดว่าเป็นทยอยเดินทางเข้ามา.
ส่วนการผ่อนคลายมาตรการต่างๆ หลังจากที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ลดลง ยังยืนยันว่า ตอนนี้ไม่ผ่อนคลายมาตรการใดๆ. ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการและผู้อาวุโสว่าจะสามารถผ่อนคลายอะไรได้บ้าง
ด้าน นพ.ณัฐพงษ์ วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์. กล่าวถึงมาตรการ การดูแลผู้พิการโดยยกตัวอย่างสถาบันสิรินธร ที่มีการนัดผู้พิการผ่านมางโทรศัพท์เพื่อทำการเลื่อนนัดรวมทั้งมีการให้คำแนะนำผ่านระบบการสื่อสารทางไกลและมีการจัดยาทางไปรษณีย์เพื่อลดการเดินทางผู้พิการในสถานการณ์โควิด -19  
นอกจากนี้ทางกระทรวงได้มองหมายให้ อสม. ทำหน้าที่เป็นคนกลางประสานรับเรื่องขอความข่วยเหลือจากผู้พิการ เช่น อุปกรณ์ที่ต้องใช้จะจัดส่งอุปกรณ์ถึงบ้าน คือ ไม้เท้า รถเข็น เป็นต้น ส่วนอุปกรณ์ราคาแพงจะมีระบบการลงทะเบียน ซึ่งผู้พิการสามารถเบิกได้ตามสิทธิ.  โดยขณะนี้ทางกระทรวงสาธารณสุขได้สำรวจความต้องการของคนพิการที่ต้องการมากที่สุดขณะนี้รือ เจลแอลกอฮอลล์ หน้ากากอนามัย และ เงินเหยียวยา ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงพัฒนาสังคมเพื่อความมั่นคงของมนุษย์จะพยายามจัดหาให้ โดยขณะนี้ มาตรการช่วยเหลือคนพิการเช่น เงินช่วยเหลือผู้พิการ 1 พันบาท. / การพักชำระหนี้ / กองทุนกู้ยืมเงินคนพิการ 12 เดือน และการกู้ยืมเงินเพื่อประกอบอาชีพคนละไม่เกิน 1 หมื่นบาท จะมีความชัดเจนหลังวันที่ 20 เมษายน 2563. 

สำหรับผู้พิการที่ต้องการปรึกษาอาการโควิด-19 สามารถโทรสายด่วน 1668 และโทร 1300 สายด่วนประชาบดี ของกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

logoline