อเมริกาโคม่า เหตุ "ทรัมป์" ไม่สนคำเตือนข่าวกรอง เรื่องโรคระบาด

แต่รัฐบาล ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ได้ตระหนักถึงภัยร้ายดังกล่าว จนทำให้ตอนนี้อเมริกามีผู้ป่วยจากไวรัสโควิด-19 เกิน 430,000 รายและเสียชีวิตไปแล้วกว่า 14,000 คน

สำนักข่าว ABC News ของสหรัฐฯอ้างแหล่งข่าว 4 คนที่ได้รับฟังรายงานสรุปของศูนย์ข่าวกรองทางการแพทย์แห่งชาติ (National Center for Medical Intelligence) หน่วยงานภายใต้กำกับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้เตือนว่าหากโรคระบาดในจีนแพร่กระจายออกไปจนควบคุมไม่ได้จะเป็นภัยร้ายแรงกับทหารอเมริกันที่ประจำอยู่ในเอเชีย
รายงานดังกล่าวยังได้แนะให้รัฐบาลสหรัฐฯเตรียมรับมือแต่เนิ่นๆก่อนที่จะเกิดวิกฤติขึ้นในประเทศ ซึ่งทำเนียบขาวได้รับคำเตือนดังกล่าวก่อนที่จะมีการระบุภายหลังว่าโรคติดต่อร้ายแรงในจีนนั้นเกิดจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่หรือโควิด-19 ในอีกหลายสัปดาห์ต่อมา
รายงานสรุปประเด็นนี้ ส่งให้กับเจ้าหน้าที่อเมริกันที่มีอำนาจในการตัดสินใจและออกนโยบาย ทั้งในทำเนียบประธานาธิบดี (ทำเนียบขาว) ในกระทรวงกลาโหมและสภาความมั่นคงแห่งชาติ แต่ รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐ Mark Esper บอกกับ ABC News ว่าเขาไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีการรายงานสรุปเรื่องดังกล่าวในเดือนธันวาคม และพันเอก R. Shane Day ผู้อำนวยการศูนย์ข่าวกรองทางการแพทย์แห่งชาติ ก็ได้ปฏิเสธว่าหน่วยงานของตนไม่เคยนำเสนอรายงานเกี่ยวกับโคโรน่าไวรัสที่สื่อกล่าวถึงแต่อย่างใด
ส่วนสภาความมั่นคงแห่งชาติและสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติของรัฐบาลสหรัฐฯได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นในเรื่องนี้
ประธานาธิบดีทรัมป์ โดนวิจารณ์อย่างหนักว่าไม่ได้กระตือรือร้นที่จะรับมือกับโรคระบาดไวรัสโควิด-19 เท่าที่ควร ช่วงปลายเดือนมกราคมเขากล่าวว่าชาวอเมริกันไม่จำเป็นจะต้องกลัว เพราะรัฐบาลสามารถคุมได้แล้ว
ในเดือนกุมภาพันธ์เขายังชมผู้นำจีนว่าจัดการกับปัญหาไวรัสนี้ได้เป็นอย่างดี
กว่าทรัมป์จะประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติและสั่งระดมทรัพยากรของรัฐบาลกลางเพื่อช่วยหน่วยงานสาธารณสุขจัดการกับวิกฤติไวรัสก็ประมาณกลางเดือนมีนาคมแล้ว
John Cohen อดีตเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ ได้วิจารณ์รัฐบาลสหรัฐฯว่าเชื่องช้าเกินไปในการเตรียมพร้อมรับวิกฤติด้านสาธารณสุขครั้งนี้ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นภัยร้ายแรงต่อความมั่นคงของประเทศ
เขากล่าวว่าผู้นำประเทศจะต้องสั่งการอย่างรวดเร็วเมื่อมีข่าวกรองว่าประเทศกำลังจะประสบภัย
"น่าประหลาดใจและน่าผิดหวังมากที่ทำเนียบขาวเพิกเฉยสัญญาณเตือน ไม่ได้ปฏิบัติตามขั้นตอนที่กำหนดเพื่อจัดการโรคระบาด และรัฐบาลกลางยังเริ่มดำเนินการโต้ตอบวิกฤติครั้งนี้ช้าเกินไป"