สำหรับการทดสอบระยะแรกนั้น จะใช้อาสาสมัครผู้ใหญ่ที่มีสุขภาพดีถึง 40 คนในเมืองฟิลาเดลเฟียและแคนซัสซิตี้ โดยผู้ร่วมทดสอบแต่ละคนจะได้รับวัคซีน INO-4800 จำนวน 2 โดสระยะห่างกัน 4 สัปดาห์
หลังจากนั้น ก็จะศึกษาผลการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน และเก็บข้อมูลความปลอดภัยเบื้องต้น ขั้นตอนแรกนี้จะดูว่าวัคซีนนั้นปลอดภัยเพียงพอสำหรับการทดสอบการป้องกันโรคในกลุ่มขนาดใหญ่กว่านี้หรือไม่ ซึ่งกระบวนการศึกษาเหล่านี้คาดว่า าอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 1 ปี
บริษัทอิโนวิโอ ฟาร์มาซูติคัล (Inovio Pharmaceuticals) ถือเป็นบริษัทที่สองของสหรัฐฯ ที่ได้เริ่มต้นทดสอบการใช้วัคซีนในคน ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2563 ทางด้านนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยในห้องทดลองของสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติของสหรัฐฯ ทำการทดสอบล่วงหน้าไปแล้ว โดยใช้อาสาสมัครทดลองเป็นผู้มีสุขภาพแข็งแรง อายุระหว่าง 18-55 ปี จำนวน 45 คน ใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ ที่ห้องทดลองของบริษัทไบโอเทคโนโลยีชื่อ Moderna ตั้งอยู่ที่เมืองแคมบริดจ์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ส่วนทุนวิจัยได้รับการสนับสนุนจาก Coalition for Epidemic Preparedness Innovations(CEPI)ที่กรุงออสโล นอร์เวย์
สำหรับวัคซีนตัวแรกมีชื่อว่า mRNA-1273 พัฒนาขึ้นมาโดยนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยในห้องทดลองของสถาบันสาธารณสุขแห่งชาติของสหรัฐฯ ที่ห้องทดลองของบริษัทไบโอเทคโนโลยีชื่อ Moderna
ล่าสุดวันที่ 2 เมษายน 2563 ทางด้านนายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวว่า การทดสอบวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ในมนุษย์เป็นครั้งแรก กำลังดำเนินไปตามเป้า และรัฐบาลจะสามารถนำวัคซีนดังกล่าวมาใช้อย่างแพร่หลายในอีก 12-18 เดือนข้างหน้า ซึ่งวัคซีนดังกล่าวจะเป็นการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี กล่าวว่า ผู้นำด้านสาธารณสุขทั่วโลกเห็นพ้องกันว่า ไวรัสโควิด-19 อาจกลับมาแพร่ระบาดในฤดูกาลข้างหน้า ดังนั้นการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสจึงเป็นแนวทางเดียวที่จะป้องกันการแพร่ระบาดดังกล่าว ซึ่งจะเหมือนกับการที่นักวิทยาศาสตร์พัฒนาวัคซีนป้องกันโรคร้ายในอดีต จนทำให้โรคดังกล่าวไม่เป็นที่น่าวิตกในปัจจุบัน
สถาพร เกื้อสกุล