เปิดภาพวงจรปิด โรคจิตสไลด์หนอนโชว์! ก่อนเวลาเคอร์ฟิว

สาวลูกจ้าง ทน.อุดรธานี ดูแลห้องสุขา-ซุ้มน้ำดื่ม ริมถนนสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม ผวาหนุ่มโรคจิตล้วงหนอนสไลด์โชว์ต่อหน้าต่อตา ก่อนเวลาเคอร์ฟิว 1 ชั่วโมง นำภาพจากกล้องวงจรปิดมอบให้สื่อและให้ข้อมูล เพื่อเตือนภัยผู้หญิงที่อยู่คนเดียว หวั่นเกิดเหตุอันตรายต่อผู้หญิงรายอื่น เตรียมเข้าแจ้งความวันนี้หลังเลิกงาน เพราะมันเป็นภัยต่อสังคม และขอท้าไอ้โรคจิต หากแน่จริงลองมาทำให้ดูใหม่อีกที 

วันที่ 7 เมษายน เวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าว จ.อุดรธานี เดินทางไปที่ห้องสุขาสวนสาธารณะหนองประจักษ์ ถ.เทศา ต.หมากแข้ง เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังจากได้รับการประสานข้อมูล จากนางสาวมินตรา คำบุญนาเรือง หรือน้องกุ้ง อายุ 27 ปี ชาว ต.นิคมสงเคราะห์ อ.เมืองอุดรธานี ว่าเมื่อเวลา 21.08 วันที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา ขณะตนกำลังปิดร้าน มีชายโรคจิตมากระทำอนาจาร ช่วยตัวเองต่อหน้าตนเอง ประมาณ 1 นาทีเศษ และไม่ทราบว่าทำสำเร็จหรือไม่ เพราะตอนนั้นรู้สึกตกใจอย่างมาก จนตัวสั่น เห็นท่าไม่ดีจึงรีบโทรแจ้ง 199 สายด่วนของ สนง.ป้องกันบรรเทาสาธารณะภัย เทศบาลนครอุดรธานี ที่อยู่ใกล้กัน ชายโรคจิตเห็นท่าไม่ดี จึงรีบเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์ ไม่ทราบสียี่ห้อและทะเบียนที่ จอดอยู่ข้างร้านนวดแผนโบราณ ขี่หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว

นางสาวมินตรา คำบุญเรือง เปิดเผยว่า นอกจากตนจะทำหน้าที่ดูแลห้องสุขาชาย-หญิง แล้วตนเองยังทำหน้าที่ขายน้ำดื่ม และขนมขบเขี้ยว ในซุ้มที่น้าสาวเป็นเจ้าของ  ปกติจะอยู่เฝ้าร้านกันสองคนน้าหลาน แต่คืนวันเกิดเหตุ น้าสาวขอกลับบ้านไปก่อน ตนเองจึงอยู่ปิดร้าน และขณะกำลังปิดร้านใกล้จะแล้วเสร็จ สังเกตเห็นมีผู้ชายวัยกลางคน อายุประมาณ 40 ปี สวมเสื้อยืดสีแดงแขนสั้น กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ เดินผ่านหน้าร้านไปทาง สนง.ป้องกันบรรเทาสาธารณะภัย เทศบาลนครอุดรธานี และมองมาที่ตนเอง แต่ก็ไม่ได้สนใจมากนัก เพราะที่ร้านจะมีคนเดินผ่านไปมาประจำ ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะเดินกลับและล้วงอวัยวะเพศออกมาช่วยตัวเองต่อหน้าต่อตา  ขณะตนนั่งอยู่โต๊ะม้าหินอ่อนหน้าตู้เย็น บริเวณหลังร้าน

โดยชายโรคจิตใช้เวลาช่วยตัวเองประมาณนาทีเศษ โดยไม่สนใจในความรู้สึกที่ขณะนั้นตนกลัวจนตัวสั่น  ตนเองเห็นท่าไม่ดีจึงหยิบโซ่ที่ใช้คล้องล็อกตู้เย็นไว้ในมือ พร้อมกับหยิบมือถือขึ้นมาโทรแจ้ง 199 เพื่อเรียกเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ ชายคนดังกล่าวจึงตกใจ แล้วรีบขี่จักรยานยนต์แบบผู้หญิง ขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว โดยมุ่งหน้าไปทางสามแยก ถ.โพศรี ทีแรกว่าจะไม่ไปแจ้งความ แต่มานอนคิดอยู่หลายวัน 

จากนั้นตนคิดว่าชายโรคจิต มันอาจจจะไปทำอีกกับผู้หญิงคนอื่น จึงนำเรื่องมาปรึกษาหัวหน้าและสื่อมวลชน เพราะอยากให้เป็นข่าวเตือนภัย อยากให้ผู้หญิงทุกคนระมัดระวังตัวเอาไว้ ไม่อยากให้เกิดเหตุร้ายไปมากกว่านี้ ขนาดที่ร้านติดกล้องวงจรปิดไว้ 5 ตัว มันยังกล้ามาก่อเหตุโดยไม่เกรงกลัวกฎหมายบ้านเมือง และหลังเลิกงานวันนี้ จะเดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับไอ้โรคจิตรายนี้ และขอท้าไอ้โรคจิตรายนี้ว่า "หากมึงกล้าและแน่จริงกลับมาทำมาทำให้ดูใหม่อีกที"