ด้านนายสยาม หัตถสงเคราะห์ ส.ส.หนองบัวลำภู พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธาน กมธ.ดีอีเอส กล่าวว่า ตนเองและคณะกรรมาธิการการสื่อสารฯ เห็นด้วยกับแนวทางช่วยเหลือดังกล่าวของ กสทช. เพราะเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมอย่างมาก โดยเฉพาะการนำงบไปสนับสนุนโรงพยาบาล และสถาบันทางการแพทย์ของรัฐ ในการเปิดโรงพยาบาลภาคสนามเพื่อรองรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังขาดอุปกรณ์เครื่องมือต่าง ๆ รวมถึงการจัดหาหน้ากากอนามัย อุปกรณ์ตรวจหาเชื้อโควิดฯ ที่สำคัญคือการพัฒนาระบบ Telemedicine หรือการแพทย์ทางไกล รวมทั้งการทำแอปพลิเคชัน ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อของบุคลากรด้านสาธารณสุขที่กำลังปฏิบัติงานอยู่ในขณะนี้ เพราะช่วยลดการสัมผัสระหว่างกันได้ อีกทั้งประชาชนก็ไม่ต้องเดินทางไปตรวจที่โรงพยาบาล เป็นการป้องกันการติดเชื้อทั้งกับเจ้าหน้าที่และผู้ป่วย เหล่านี้จะช่วยเหลือการต่อสู้กับโควิดฯ ได้อย่างมาก
ขณะที่ พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ในฐานะรองประธาน กมธ.ดีอีเอส กล่าวว่า การตัดสินใจของ กสทช. ถือเป็นตัวอย่างที่ดีกับหน่วยงานอื่น ๆ ของรัฐ ที่จะได้นำงบประมาณมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับส่วนรวมในการสู้กับวิกฤตเชื้อโควิดฯ ครั้งนี้ โดยเฉพาะเป็นการให้งบโดยตรงถึงโรงพยาบาลที่ร้องขอเข้ามา ซึ่งเป็นการช่วยเหลือด้านงบประมาณได้แบบตรงจุดอย่างยิ่ง เชื่อว่าทุกฝ่ายจะเห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าว เพราะทำให้เราสามารถบริหารงบประมาณได้อย่างมีประสิทธิภาพสภาวะวิกฤต อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่างบประมาณ 1 พันล้านนี้ น่าจะน้อยไป คงไม่เพียงพอในการสนับสนุนงานด้านสาธารณสุขเพื่อต่อสู้กับวิกฤตโควิดฯ ดังนั้นจึงอยากให้ กสทช. ได้พิจารณาปรับเพิ่มงบประมาณในการช่วยเหลือครั้งนี้ขึ้นอีก และอยากให้หน่วยราชการอื่นที่มีศักยภาพ อาจจะต้องเร่งพิจารณาเกลี่ยงบประมาณเพื่อให้ทันต่อสถานการณ์ที่ต้องร่วมมือกันต่อสู้กับวิกฤตครั้งนี้