svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

ไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 103 ราย ยอดสะสม 1,978 ราย ดับเพิ่ม 4 ราย

03 เมษายน 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

โฆษก ศบค. แถลงสถานการณ์โควิด-19 พบผู้ป่วยใหม่ 103 ราย ยอดผู้ป่วยยืนบัน สะสมเพิ่มขึ้นเป็น 1,978 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย แจงคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศต้องอยู่ในการดูและขอรัฐบาลครบ 100 % พร้อมระบุนายกรัฐมนตรี ไม่พอใจ อัตราตัวเลขผู้ติดเชื้อเและเสียชีวิต

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ได้แถลงผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ โดยเน้นเรื่องสุขภาพของคนไทยทุกคน พร้อมรณรงค์ให้คนไทยอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ นอกจากนี้ ยังมีคำกล่าวของนายกรัฐมนตรีที่ระบุว่า "สุขภาพนำเสรีภาพ" ซึ่งเป็นที่มาของการประกาศเคอร์ฟิว 22.00-04.00 น.ในคืนนี้เป็นคืนแรก แต่ขออย่าตื่นตระหนก ไม่ต้องกักตุนสินค้า เพราะยังออกมาซื้อสินค้าได้ในเวลากลางวันตามปกติ
ส่วนสถานการณ์ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 37 ของโลก ลำดับที่ 3 ของอาเซียน โดยมีรายงานผู้ป่วยใหม่ 103 คน รวมผู้ป่วย 1,978 คนหายป่วยแล้ว 581คน ขณะมีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย รวม 19 คน
โดยผู้เสียชีวิตคนแรก เป็นเพศชายอายุ 59 ปี เป็นพนักงานการรถไฟ มีอาการเข้ามารักษาด้วยอาการไข้ ดูเหมือนอาการน้อยมา แล้วกลับไปทำงานปกติ แต่ผ่านไปเริ่มมีอาการหนัก เหนื่อยหอบ จนกระทั่งเข้ารักษาพบยืนยันติดเชื้อ และเสียชีวิต ในวันที่ 2 เมษายน
ผู้เสียชีวิตรายที่สอง คือ ชายไทยอายุ 72 ปี ลูกของผู้เสียชีวิตรายนี้ไปดูมวย ผู้เสียชีวิตป่วยเป็นโรคไต และเสียชีวิตในวันที่ 1 เมษายน
ผู้เสียชีวิตรายที่สาม คือ ชายไทย 84 ปี ทำงานอยู่ที่สนามมวยราชดำเนิน มีโรคประจำตัว คือ โรคไต ความดันโลหิตสูง และโรคเก๊า เสียชีวิตในวันที่ 2 เมษายน //และผู้เสียชีวิตรายที่ 4 คือ ชายไทยอายุ 84 ปี มีประวัติไปสนามมวยราชดำเนิน เริ่มป่วย 14 มีนาคม เข้ารักษาด้วยอาการไข้ 39 องศา ในวันที่ 21 มีนาคมด้วยอาการ มีน้ำมูกและไอ เสียชีวิตในวันที่ 2 เมษายน โดยจะพบว่า 3 ใน 4 รายเป็นผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว โดยเฉพาะเดือนนี้เข้าสู่เทศกาลสงกรานต์จึงไม่อยากให้ ลูกหลานกลับไปรดน้ำสงกรานต์กับผู้สูงอายุของเชื้อโรค

ไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่ 103 ราย ยอดสะสม 1,978 ราย ดับเพิ่ม 4 ราย

ทั้งนี้ กลุ่มที่ต้องให้ความสำคัญคือ กลุ่มคนอายุ 20-29 ปี เป็นกลุ่มเสี่ยงและเกิดการแพร่กระจายของเชื้อ โดยผู้ป่วยรายใหม่ 103 คน
แบ่งเป็นกลุ่มแรก ผู้ป่วยมีประวัติสัมผัสผู้ป่วยยืนยัน 48 คน ประกอบด้วยสนามมวย 1 คน / สถานบันเทิง 2 คน / ร่วมพิธีกรรมทางศาสนาในประเทศอินโดนีเซีย 6 คน / สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน 39 คน
กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยไม่เกี่ยวข้องกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 44 คน แบ่งเป็นคนไทยเดินทางกลับจากต่างประเทศ 7 คน/เช่าต่างชาติเดินทางกลับจากต่างประเทศ 8 คน/ผู้สัมผัสผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศ 2 คน/ไปสถานที่ชุมชน 4 คน/อาชีพกลุ่มเสี่ยง 13 คน/อื่นๆ 5 คน //และกลุ่มสุดท้ายอยู่ระหว่างสอบสวนโรคอีก 11 คน
โดยจำนวนผู้ติดเชื้อจำนวน 1978 คนใน 62 จังหวัดกระจายอยู่ทั่วประเทศประกอบด้วยกรุงเทพฯ 947 คน นนทบุรี 114 คน ภูเก็ต 100 คน สมุทรปราการ 88 คน ชลบุรี 54 คน ยะลา 50 คน ปัตตานี 43 คน สงขลา 34 คน เชียงใหม่ 32 คน ปทุมธานี 24 คน และอยู่ระหว่างสอบสวนโรคอีก 187 คน
พร้อมกับขอชื่นชม 15 จังหวัดที่ยังไม่มีรายงานการค้นพบผู้ป่วย ได้แก่ กำแพงเพชร ชัยนาท ตราด น่าน บึงกาฬ พระนครศรีอยุธยา พังงา พิจิตร ระนอง ลำปาง สกลนคร สตูล สิงห์บุรีสมุทรสงคราม และอ่างทอง แต่ยอมรับว่าสถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ ข้อมูลในกรุงเทพมานครกลับเพิ่มขึ้นอีก การที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นวันละ 100 กว่าราย ยังต้องเป็นเรื่องที่ต้องติดตาม
ส่วนมาตราการการเดินทางการเดินทางเข้าประเทศไทย จนถึงวันที่ 15 เมษายนนี้นั้นกระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า คนไทยจำนวน 100 คนจะเดินทางกลับเข้ามาจากประเทศอินโดนีเซียโดยจะเข้าไทยในวันที่ 6 เมษายน มาเลเซีน จำนวน 83 คนรวมไปถึงนักเรียน AFS จากประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งไทยจะมีการเตรียมพื้นที่รองรับ ครบทั้ง 100% เนื่องจากเสี่ยงต่อการนำเชื้อมาแพร่ระบาดคนไทยได้ แต่ขอให้อย่ารังเกียจเดียดฉันท์กลุ่มคนเหล่านี้ เนื่องจากเป็นลูกหลานคนไทยที่ต้องได้รับการดูแล
โดยในช่วงท้ายนายแพทย์ทวีศิลป์ ยังระบุอีกว่านายกรัฐมนตรีนั้น ยังไม่พอใจในตัวเลขของการติดเชื้อและเสียชีวิต แม้ว่าอัตราการเสียชีวิตของไทยนั้นจะอยู่ที่ร้อยละ 0.96 ต่ออัตราผู้ติดเชื้อก็ตาม

logoline