svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

"ศัลยแพทย์" ชี้พลิกวิกฤติจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นโอกาสทำบ้านเมืองให้สะอาด

31 มีนาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

"ศัลยแพทย์" ชี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโรคโควิด-19 กระตุ้นให้สังคมไทยตื่นตัวในการเรียนรู้และปรับพฤติกรรมต่างๆ เพื่อสู้กับเชื้อโรค ทำให้ได้เห็นอีกแง่มุมหนึ่ง และเกิดการพัฒนาอย่างเป็นรูปแบบใน 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านสุขอนามัย (hygiene) 2) ด้านการ สุขา

ภิบาล (Sanitation) และ 3) ด้านสังคม (Social) พร้อมแนะควรใช้วิกฤติครั้งนี้ให้เป็นโอกาสทำบ้านเมืองให้สะอาด ปราศจากมลพิษและปลอดภัยจากเชื้อโรคต่างๆ ให้เร็วที่สุด
นายแพทย์ชลธิศ  สินรัชตานันท์  นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งเอเชีย  และอดีตนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าประเทศไทยประสบปัญหามลภาวะทางอากาศ ทั้งควันพิษและฝุ่นละออง PM2.5 จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของคนไทย ทำให้มีการณรงค์สวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือฆ่าเชื้อ ซึ่งนับเป็นการรณรงค์ด้านสุขอนามัย (hygiene) พื้นฐานสำหรับคนไทย  ดังนั้นเมื่อเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่2019  ที่ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจอุบัติใหม่ หรือ โควิด-19 ขึ้น ในความหวาดกลัว และตื่นตระหนก ทำให้เห็นคนไทยตื่นตัวและให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขอนามัย (hygiene) อย่างจริงจังมากขึ้น นับเป็นข้อดีประการแรกเพราะสุขอนามัยเป็นพื้นฐานสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี และปัจจุบันยังถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย

"ศัลยแพทย์" ชี้พลิกวิกฤติจากสถานการณ์โควิด-19 เป็นโอกาสทำบ้านเมืองให้สะอาด


สำหรับหลักการดูแลสุขอนามัย เพื่อป้องกันโควิด-19คุณหมอแนะนำดังนี้
-สวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ข้างนอกและในสถานที่ที่มีคนพลุกพล่าน
-ล้างมือด้วยน้ำเปล่าและสบู่ หรือเจลล้างมือบ่อยๆ อย่างน้อย 20 วินาที
-หลีกเลี่ยงการใช้มือหยิบจับโลหะ ราวบันได  ปุ่มลิฟท์ และลูกบิดประตูต่างๆ  
-ธนบัตรและเหรียญต่างๆ เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคเช่นกัน หลังหยิบจับควรล้างมือทุกครั้งและทำความสะอาดธนบัตร เช็ดด้วยแอลกอฮอล์หรือตากแดด ส่วนเหรียญควรนำไปต้ม เป็นต้น
-รับประทานอาหารที่ทำใหม่ร้อนๆ  หลีกเลี่ยงการใช้มือและควรล้างมือก่อนรับประทานทุกครั้ง
-เข้าห้องน้ำ เช็ดทำสะอาดก่อน-หลังนั่งทุกครั้ง หลีกเลี่ยงการใช้มือปิด-เปิดประตูและกลอน
-หลีกเลี่ยงสถานที่ที่มีการชุมนุม ถ้าจำเป็นควรทำ Social Distancing เว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 1 เมตร 
ประการที่สอง ตื่นตัวด้านการสุขาภิบาล(Sanitation) จะเห็นได้ว่าหลังจากการแพร่ระบาดโควิด-19 มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและทหาร ออกมาร่วมกันทำความสะอาดถนนหนทาง สวนสาธารณะ ตลาด และฉีดฆ่าเชื้อโรคตามสถานที่ชุมชนต่างๆ  เพราะอาจเป็นจุดที่มีสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อติดอยู่ ทำให้เกิดแพร่กระจายของเชื้อโรคได้  สำหรับการสุขาภิบาล หรือ Sanitation หมายถึง การบำรุงรักษาของสภาพทางสุขอนามัยผ่านการบริการต่างๆ เช่นการเก็บขยะการกำจัดน้ำเสียทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะต่างๆ เป็นต้น ซึ่งองค์การอนามัยโลก ได้ระบุว่า การสุขาภิบาลที่ไม่เพียงพอ เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดโรคทั่วโลกและการปรับปรุงการสุขาภิบาลเป็นที่รู้จักกันว่าจะมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งในครัวเรือนและในทั้งชุมชน
นอกจากนี้ คุณหมอยังแนะอีกด้วยว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรรณรงค์ให้ความรู้กับสถานบริการ สถานบันเทิง ห้างสรรพสินค้า  ร้านอาหาร  ตลาดสด โรงแรมและแหล่งให้บริการที่พักต่างๆ ในการดูแลรักษาความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคอย่างถูกต้องและได้มาตรฐาน เพื่อเร่งกำจัดเชื้อโรคโดยเฉพาะไวรัสโควิด-19 ให้เร็วที่สุดและทำอย่างต่อเนื่องด้วยประการสุดท้าย ด้านสังคม (Social) จากสถานการณ์โควิด-19 แม้จะมีผลกระทบกับสังคมไทยทั้งการดำเนินชีวิต การทำมาหากินและความเป็นอยู่แล้ว ก็ยังมีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นมากมาย ได้แก่
-ครอบครัวมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้น จากมาตรการ "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" และ Work From Home
-เกิดความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ แบ่งปันหน้ากากอนามัยกัน ร่วมกันบริจาคเงินซื้อหน้ากากอนามัยให้กับบุคคลากรการแพทย์ จนเกิดแฮชแท็กซึ้งๆ มากมาย เช่น  #คนไทยไม่ทิ้งกัน  #ร่วมใจสู้โควิด19 เป็นต้น
-เกิดการสร้างสรรค์และนวัตกรรมต่างๆ เช่น ผลิตหน้ากากอนามัยใช้เอง และแจกจ่ายไปยังคนอื่นๆ มีการครีเอทแอพหรือโปรแกรมสำหรับใช้งานออนไลน์ เพื่อช่วยกลุ่ม WFM เป็นต้น
-มีเวลาทบทวนตัวเอง ใช้สติ มองสถานการณ์ให้รอบด้าน รวมทั้งศึกษาธรรมะ เพื่อต่อสู้กับความกลัวและนำพาตัวเองและประเทศให้ก้าวผ่านสถานการณ์ช่วงนี้ไปให้เร็วที่สุด
นอกจาก การปรับเป็นมุมบวกจากสถานการณ์โควิด-19 ทั้งสามประการแล้ว ในแง่การบริหารของรัฐบาลเพื่อหยุดปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสครั้งนี้ ก็ยังเห็นการบูรณาการทำงานร่วมกันจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะแพทย์ และบุคลากรแพทย์ต่างๆ ออกมาเป็นนักรบแนวหน้าที่ต่อสู้กับโควิด-19 อย่างน่ายกย่อง รวมทั้งทหาร ตำรวจ รวมถึง อสม.ที่ออกมาช่วยกันปราบเชื้อโรคครั้งนี้ 
สุดท้ายคุณหมอยังขอฝากให้คนไทยทุกคน ดูแลสุขอนามัยของตัวเองอย่างเคร่งครัดต่อไป เพื่อป้องกันโรคภัยต่างๆ และมีสุขภาพที่ดี รวมทั้งอยากให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการสุขาภิบาลของประเทศ ร่วมกันใช้วิกฤติครั้งนี้ให้เป็นโอกาส ในการเริ่มต้นจัดการทำบ้านเมืองให้สะอาดตา ปราศจากมลพิษและปลอดภัยจากเชื้อโรคต่างๆ อย่างต่อเนื่องต่อไป เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว และเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศให้เร็วที่สุด 

logoline