svasdssvasds
เนชั่นทีวี

สังคม

สธ.เเถลงยัน! ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม 111 ราย รวม 1,045 ราย

26 มีนาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

วันนี้ (26 มี.ค.) สธ.จะแถลงข่าว ที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) ณ กระทรวงสาธารณสุขแถลงข่าวเวลาประมาณ 12.30 น. 111 ราย ยอดสะสมอยู่ที่ 1,045 ราย

 นายแพทย์ อนุพงศ์ สุจริยกุล ผู้ทรงคุณวุฒิกรมควบคุมโรค กล่าวถึงสถานการณ์โรคโควิด 19 ในประเทศไทย วันนี้พบผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 111 คน รวมสะสม 1045 คน กลับบ้านแล้ว 88 คน อยู่รพ. 953 คน เสียชีวิต 4 คน อาการหนัก 4 คน โดยผู้ป่วยใหม่ นับเป็นลำดับที่ 935 - 1045 จำแนกเป็น สามกลุ่ม คือ 

สธ.เเถลงยัน! ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม 111 ราย รวม 1,045 ราย


กลุ่มที่ 1 ผู้ป่วยที่มีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วย หรือเกี่ยวข้องกับสถานที่ที่พบผู้ป่วยก่อนหน้านี้ จำนวน 29 คน มีรายละเอียด ดังนี้
1.1 สนามมวย 6 คน  (เป็นเซียนมวย,ค้าขาย,ข้าราชการเกษียณ พบผู้ป่วยที่ กรุงเทพฯ, นนทบุรี, นครราชสีมา) 
1.2   สถานบันเทิง 3 คน (เป็นคนเที่ยว จากผับแถวรัชดา, กระบี่, อุดรธานี )
1.3   สัมผัสกับผู้ป่วยที่มีรายงานมาแล้ว  19 คน (พบผู้ป่วยที่ฉะเชิงเทรา, อุทัยธานี, ปทุมธานี, นนทบุรี, นครราชสีมา มุกดาหาร กระบี่ ยะลา กรุงเทพฯ สมุทรปราการ)
1.4  ร่วมพิธีทางศาสนาที่มาเลเซีย 1 คน (จากปัตตานี)
กลุ่มที่ 2 ผู้ป่วยรายใหม่ จำนวน 19 คน มีรายละเอียด ดังนี้
 2.1  เดินทางจากต่างประเทศ/ชาวต่างชาติ 6 คน (เป็นคนไทย 5 ราย / ต่างชาติ 1 ราย เป็นชาวอเมริกัน)
 2.2  ทำงานหรืออาศัยในสถานที่แออัดต้องใกล้ชิดคนจำนวนมาก หรือเกี่ยวข้องกับชาวต่างชาติ 9 คน (ทำงานในสถานบันเทิง, ขับรถสาธารณะ, พนักงานโรงแรม, พนักงานร้านนวด, พนักงานบริษัท)
2.3 บุคลากรทางการแพทย์ 3 คน เป็น พยาบาล 2 คน และแพทย์ 1 คน  // จากการสอบสวนโรค มาจากในส่วนขั้นตอนการคัดกรองผู้ป่วย เนื่องจากผู้ป่วยมาตรวจด้วยอาการไข้หวัด โดยไม่ได้มีการแจ้งประวัติเสี่ยงการเดินทาง หรือ ประวัติการสัมผัสกลุ่มเสี่ยงให้กับเจ้าหน้าที่ ซึ่งจากยอดสะสมบุคลกรทางการแพทย์ 9 คน ส่วนใหญ่ เป็นการติดเชื้อ จากคนไข้ ที่ทำการปกปิดข้อมูลถึงความเสี่ยงในการติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่จุดคัดกรองโรค ทำให้บุคลกรทางการแพทย์ ไม่ได้ระมัดระวัง และไม่ได้สวมใส่ชุดป้องกันโรค  หลังจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้กำชับให้ แพทย์ พยาบาล ใส่ชุด ป้องกันโรค หรือ ชุดPPE ปฏิบัติงาน ทุกขั้นตอนของการตรวจโรค เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
2.4 กลุ่มอื่นๆ ตามเกณฑ์เฝ้าระวัง อาทิ ปอดอักเสบไม่ทราบสาเหตุ 1 คน
กลุ่มที่ 3 ได้รับผล lab ยืนยันพบเชื้อ อยู่ระหว่างรอประวัติและสอบสวนโรค 63 คน ได้รับรายงานจากการคัดกรองผู้ป่วยจากภาคใต้จำนวน 27 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้ร่วมงานดาวะห์

สธ.เเถลงยัน! ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม 111 ราย รวม 1,045 ราย


สำหรับผู้ป่วยอาการหนักมี 4 คน ต้องใส่เครื่องช่วยหายใจ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด      นายแพทย์ อนุพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้จำนวนผู้ป่วยสะสมจำนวนเพิ่มขึ้นทะลุหลักพันแล้ว เร็วกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้เล็กน้อย แต่ทั้งหมดยังทราบประวัติที่มาที่ไป โดยกลุ่มที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือ กลุ่มผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายเก่าที่เคยรายงานแล้ว  ทั้งกลุ่มสนามมวย  กลุ่มสถานบันเทิง กลุ่มกลับจากงานบุญ พบประมาณ 20-30 คน ต่อวัน ซึ่งแสดงให้ทราบว่า ประชาชนกลุ่มเสี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำในเรื่อง การไม่เว้นระยะห่าง (Social Distancing) ในบ้าน ทำให้นำโรคมาแพร่ให้ แม่ พ่อ สามี ภรรยา ลูก หลาน 
ส่วนผู้ป่วยรายใหม่ ยังเป็นกลุ่มเสี่ยง ที่มีอาชีพเสี่ยง ทำงานในสถานที่เสี่ยง ที่ได้ขยายการเฝ้าระวัง คือ มาจากพื้นที่เสี่ยง ผู้ทำงานสัมผัสกับชาวต่างชาติ และทำงานในสถานบันเทิง พบทั้งใน กทม.และต่างจังหวัด วันละประมาณ 10-20 คน  แสดงถึงความตระหนักเรื่อง การป้องกันตัวเองของประชาชนยังไม่ดีพอ ยังไม่งดการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง ยังไปในพื้นที่คนแออัด ไม่สวมหน้ากากอนามัย ไม่หมั่นล้างมือ 
   อย่างไรก็ตาม มีข้อสังเกตว่ากลุ่มผู้ป่วยในกรุงเทพ ปริมณฑล รวมทั้งกลุ่มจังหวัดชายแดนใต้ พบรายงานผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลมาจากความรวดเร็วของระบบคัดกรองผู้ป่วย ผู้เข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง ซึ่งเมื่อได้รับรายงานผู้ป่วยเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคในพื้นที่จะเข้าไปค้นหาผู้สัมผัสเสี่ยงสูงมาเข้าระบบทันที ส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอาการเจ็บป่วยเล็กน้อย ทำให้ตัวเลขผู้ป่วยในกรุงเทพฯ และภาคใต้ได้ค่อนข้างสูง ค้นพบผู้ป่วยได้จำนวนมาก  ในส่วนภาคอื่นๆ ยังผู้ป่วยได้ประปรายเนื่องจากประชาชนยังไม่งดการเดินทาง 

สธ.เเถลงยัน! ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่ม 111 ราย รวม 1,045 ราย

     ขณะที่ จุดเปลี่ยนประเทศไทย ที่ผ่านมา เคสแรกๆ ที่เกิดขึ้น เริ่มมาจากสนามมวย ช่วงวันที่ 16 มีนาคม ที่เริ่มมีผู้ป่วยจากสนามมวย และเพิ่มมาเรื่อยๆ จนวันที่ 22 มีนาคม ตัวเลขผู้ป่วยกระโดดไป 188 คน แต่มันก็มีเหตุผลอื่นร่วมด้วย เพราะก่อนหน้านี้ แพทย์จะต้องยืนยัน สองแล็บ ฉะนั้น ที่ยอดผู้ป่วยพุ่งเพราะเป็นเคสสะสมมาก่อนหน้านี้ แต่หลังจากนั้น มีการปรับการตรวจให้เหลือแล็บเดียว ยอดผู้ป่วยก็ลดลงมา และถ้าหากประเมิน จากตัวเลข แล้วเพิ่มขึ้นหลักร้อยไปจน 30 เมษายน คาดว่าจะมีผู้ป่วยประมาณ 3.5 พัน ทั่วประเทศ แต่หากเราปฏิบัติตัวตามมาตรการต่างๆ ที่ออกมา ยอดผู้ป่วยก็จะไม่ถึง ยอมรับว่า ช่วงนี้เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ โอกาสเสี่ยงมี แต่เราจะทำให้เกิดน้อยที่สุด 
นอกจากนี้ จากข้อมูลยังพบว่า กลุ่มอายุ 10-19 ปี และ อายุ 70 ปี อาจมีแนวโน้ม ติดเชื้อภายในครอบครัว เนื่องจากเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิด ผู้ป่วยติดเชื้อที่มาจากกลุ่มสนามมวย ซึ่งขณะนี้กระจายไปอยู่ตามต่างจังหวัดล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขแถลงข่าวเวลาประมาณ 12.30 น. 111 ราย ยอดสะสมอยู่ที่ 1,045 ราย

logoline