ล่าสุด ผู้บัญชาการทหารบก มีคำสั่งการถึงกำลังพลในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้เลี่ยงออกนอกบ้านพักโดยไม่จำเป็น ห้ามนำคนนอกเข้ามาพักอาศัย ใครกลับจากต่างจังหวัดมาให้กักตัว พร้อมปรับปรุงหน่วยเพื่อลดความแออัด งดปล่อยทหารเกณฑ์ลาพัก แต่เยี่ยมได้ โดยผู้บังคับบัญชาต้องดูแลเอาใจใส่ หากขัดคำสั่ง ปรับย้ายทันที พร้อมให้สิทธิพลทหารที่จะปลดประจำการ สมัครใจอยู่ต่อ เป็นทางเลือกไปสู่นายสิบ
คำสั่งการจากผู้บัญชาการทหารบก ถึงกำลังพลกองทัพบก24 มีนาคม 2563
เพื่อนทหารร่วมชีวิตในกองทัพบกทุกนาย
จากสถานการณ์ปัจจุบัน ทั่วโลกกำลังเผชิญกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมถึงประเทศไทย ซึ่งล่าสุดพบผู้ติดเชื้อจำนวน 827 ราย เสียชีวิตแล้ว 4 ราย ซึ่งกระจายอยู่ใน 47 จังหวัด โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในส่วนกองทัพบก มีกำลังพลที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 5 นาย กำลังพลที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงสูงและอยู่ระหว่างการกักตัวตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 238 นาย ทั้งนี้กำลังพลของกองทัพบกดังกล่าว ได้ให้ความร่วมมือในการกักตัวอยู่บ้าน ตามมาตรการของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาด
ของเชื้อไวรัสโควิด-19 ของรัฐบาล และกองทัพบก มีระบบการติดตามตรวจสอบอย่างเข้มงวด
กองทัพบกมีหน้าที่ในการเตรียมกำลังพล บุคลากรทางการแพทย์ และยุทโธปกรณ์ทุกประเภท ในการสนับสนุนรัฐบาล แต่จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 การเตรียมความพร้อมในเรื่องกำลังพล จึงมีความสำคัญสูงสุดในห้วงเวลานี้
ดังนั้น เพื่อให้การควบคุม พิทัษ์ และปกป้องกำลังพล และครอบครัวของกองทัพบก เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผบ.ทบ. จึงขอสั่งการให้ปฏิบัติตามคำสั่ง โดยมีผลการบังคับใช้กับกำลังพลในสังกัด ทบ. ทุกนาย ดังนี้
1.กำลังพลที่พักอาศัยในบ้านพักของทางราชการ ให้หลีกเลี่ยงการออกนอกบริเวณโดยไม่จำเป็น ห้ามนำบุคคลภายนอกเข้ามาพักอาศัยโดยเด็ดขาด ยกเว้นได้รับการอนุมัติเป็นลายลักษณ์อักษร จาก ผบช.(ระดับ ผบ.พัน. ขึ้นไป และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการโรคระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด ห้ามกลับเข้าบนพักของทางราชการเกินเวลา 21.00 น. หากมีความจำเป็น ให้ขออนุญาต ผบช. เป็นรายบุคคล ส่วนกำลังพลที่มีบ้านพักอาศัยส่วนตัวอยู่นอกหน่วย เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการการติดตาม และเฝ้าระวังให้แจ้งที่อยู่บ้านพัก และช่องทางการติดต่อสื่อสาร ที่สามารถติดตามตัวได้ตลอดเวลา ส่วนหน่วยที่มีการฝึกร่วมกับมิตรประเทศในที่ตั้ง ให้ดำเนินการตามมาตรการนี้เช่นเดียวกัน ยกเว้น การฝึกนอกที่ตั้ง ให้ปฏิบัติตามตารางการฝึก และคำสั่งของกองทัพบก เรื่องมาตรการควบคุมโรคระบาด
2.การเดินทางออกนอกพื้นที่ กทม. หรือจังหวัดหนึ่ง ไปยังอีกจังหวัดหนึ่ง ให้กระทำได้ในเฉพาะกรณีเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามคำสั่ง เช่น การเดินทางไปราชการ การสับเปลี่ยนกำลังของหน่วย หากไม่มีคำสั่ง ให้กำลังพลทุกระดับปฏิบัติหน้าที่ในที่ตั้งปกติ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 25 มีนาคม ถึงวันที่ 22 เมษายน 2563 ยกเว้นการลากิจที่จำเป็น เร่งด่วน ฉุกเฉิน ให้รายงานโดยตรงต่อ ผบช.ของตนเอง และ ผบช. จะต้องพิจารณาอย่างเร่งด่วน และอนุมัติโดยรวดเร็ว
3.ให้ ผบ.หน่วย ปรับปรุงอาคารสถานที่ และสิ่งแวดล้อมภายในหน่วยให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น โรงยิม , ไต้ถุนกองร้อย , สโมสรของหน่วย เพื่อลดความแออัดของกำลังพล และลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคให้กับกำลังพล และเพื่อกักบริเวณในการเฝ้าระวังผู้ที่กลับจากการลาพัก
4.ตามที่ ทบ. ได้สั่งการไปแล้ว โดยให้หน่วยปรับเปลี่ยนระเบียบปฏิบัติประจำวันเพื่อป้องกันโรคตามคำแนะนำ ขอให้รักษาวินัยในเรื่องดังกล่าวอย่างเคร่งครัด เช่น อยู่ห่างกันอย่างน้อย 2 เมตร มีอุปกรณ์ , ภาชนะ , กระติกน้ำดื่มส่วนตัว การกระจายที่นั่ง แบ่งผลัดรับประทานอาหาร การออกกำลังกายกลางแจ้งกลางแดด กิจกรรมใดที่ต้องรวมพลพร้อมกันจำนวนมาก ให้พิจารณาแบ่งการปฏิบัติเป็นผลัดเพื่อลดความแออัด
5.งดการปล่อยลาพักของทหารกองประจำการ ทั้งนี้ เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรค สำหรับการเยี่ยมญาติสามารถปฏิบัติได้ แต่ต้องเป็นไปตามมาตรการการระวังป้องกันโรคระบาด ทั้งนี้เพื่อเป็นการพิทักษ์กำลังพล ส่วนน้องๆ พลทหารฯ และกำลังพลทุกระดับ ที่ได้ลาพักไปแล้ว เมื่อกลับมาขอให้หน่วยได้จัดสถานที่ให้อยู่ต่างหาก และกันตัวเองออกจากกำลังพลส่วนใหญ่เป็นเวลา 14 วัน เพื่อเฝ้าสังเกตอาการ หากพบอาการป่วยให้ส่งตรวจรักษาทันที
6.ให้ทุกหน่วยพิจารณาจำกัดทางเข้า ออกของหน่วย ส่วนกองรักษาการณ์ให้แปรสภาพเป็น จนท.คัดกรอง , เฝ้าระวัง บุคคลเข้าหน่วย โดยจัดหาอุปกรณ์วัดอุณหภูมิ เจลแอลกอฮอล์ สำหรับล้างมือตามจุดเข้า - ออก โดยกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่กองรักษาการณ์ให้ใส่หน้ากากทุกนาย
7.ผู้บังคับกองร้อย และผู้บังคับกองพัน จะต้องเป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด โดยมีผู้บังคับการกรม และ ผบ.พล หรือเทียบเท่า เป็นผู้กำกับดูแลอีกชั้นหนึ่ง หากไม่กำกับการปฏิบัติฯ หรือได้รับการรายงานฯ ถือว่าขัดคำสั่ง จะมีผลในการปรับย้ายทันที ทั้งนี้ เพื่อเป็นการพิทักษ์กำลังพล และครอบครัวของกองทัพบก ผบ.หน่วยทุกนายจะต้องทุ่มเท เสียสละ ดูแล ผู้ใต้บังคับบัญชาอย่างดีที่สุด โดยเฉพาะ น้องๆ พลทหาร ซึ่งมีกำลังพลถึง 120,000 นาย ถือว่าเป็นกำลังสำคัญของ ทบ.
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อสภาพเศรษฐกิจทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ผบ.ทบ. มีความห่วงใยต่อน้องๆ พลทหารกองประจำการ ที่กำลังจะปลดประจำการสิ้นเดือน เม.ย.63 นี้ จึงขอเสนอทางเลือก ให้กับน้องๆ สมัครเป็นทหารกองประจำการต่อ โดยกองทัพบกจะพิจารณาโอกาสให้น้องๆเป็นนักเรียนนายสิบ ซึ่งอาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของน้องๆ ทหารกองประจำการ ที่จะสามารถแบ่งเบาภาระของครอบครัว มีรายได้และสวัสดิการที่ชัดเจนแน่นอน ส่วนน้องๆ พลทหาร ที่มีความประสงค์จะขอปลดประจำการในเดือน เม.ย.63 นี้ ผบ.ทบ.ขอขอบคุณทุกคน ที่ได้เข้ามาเป็นกำลังสำคัญในการรับใช้ประเทศชาติ และการช่วยเหลือประชาชนตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ขอให้น้องๆ ตรวจสอบให้แน่ใจอีกครั้ง ว่ามีงานรออยู่ก่อนที่จะขอปลดประจำการฯ
สุดท้ายนี้ ขอให้กำลังพลทุกนายติดตามสถานการณ์ และปฏิบัติตามคำสั่งของกองทัพบกที่ได้สั่งการไปแล้วอย่างเคร่งครัด