รวมทั้งในดินแดนในเครือของสหรัฐอเมริกาอย่าง ดิสตริกต์ออฟโคลัมเบีย กวม เครือรัฐเปอร์โตริโก หมู่เกาะเวอร์จิน โดยในจำนวนผู้เสียชีวิตอยู่ในรัฐนิวยอร์ก 157 ราย และรัฐวอชิงตัน 110 ราย ที่ลุยเซียนาอีก 34 ราย เฉพาะที่รัฐนิวยอร์กมีผู้ป่วยมากกว่า 20,000 ราย
ด้านมาร์กาเร็ต แฮร์ริส โฆษกหญิงขององค์การอนามัยโลก ระบุไว้ว่า ได้จับตามองตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในสหรัฐ จากยอดติดเชื้อหลักพันเมื่อสัปดาห์ก่อน พุ่งเป็นหลักหมื่นในสัปดาห์นี้ จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าสหรัฐจะกลายเป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคโควิด-19 ในไม่ช้า
นอกจากนี้ ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันอังคาร ยังระบุว่า 85% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มาจากสหรัฐและยุโรปเป็นหลัก และ 40% ของผู้ติดเชื้อรายใหม่มาจากสหรัฐเพียงประเทศเดียว โดยสถานการณ์ล่าสุดในสหรัฐ ขณะนี้ประชาชน 1 ใน 3 ของประเทศ ต้องอยู่แต่ในเคหะสถาน ภายใต้มาตรการคุมเข้มด้านการเดินทางของหลายสิบรัฐทั่วประเทศ
ขณะที่แอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก เรียกร้องให้รัฐบาลกลางจัดสรรอุปกรณ์การแพทย์และความช่วยเหลือมาให้กับรัฐนิวยอร์กอย่างเร่งด่วน พร้อมทั้งคัดค้านแนวคิดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ผลักดันให้ชาวอเมริกันกลับมาทำงานได้ตามปกติ ภายในต้นเดือนเม.ย.นี้
ด้านยอดผู้เสียชีวิตทั่วโลกขณะนี้อยู่ที่ 16,497 ราย โดยอิตาลีรั้งอันดับแรกตามด้วยจีน ขณะที่สเปนมีผู้เสียชีวิต 2,031 คน อิหร่าน 1,018 คน และประเทศที่มีผู้เสียชีวิตหลักร้อย ได้แก่ ฝรั่งเศส 860 คน สหรัฐ 520 คน อังกฤษ 335 คน เนเธอร์แลนด์ 213 คน เยอรมนี 123 คน สวิตเซอร์แลนด์ 120 คน และเกาหลีใต้ 111 คน ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อรวมทั่วโลกอยู่ที่ 378,287 คน โดยจีนยังมีการยืนยันผู้ติดเชื้อมากที่สุดที่ 81,496 คน อิตาลี 63,927 คน สหรัฐ 43,667 คน สเปน 35,136 คน เยอรมนี 29,056 คน อิหร่าน 23,049 คน ฝรั่งเศส 20,123 คน ขณะที่ผู้ติดเชื้อซึ่งหายจากอาการป่วยแล้วอยู่ที่ 100,958 คน