svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เจาะประเด็นร้อน

เจาะแผนสหรัฐฯ "แจกเงิน" สู้โควิด-19

20 มีนาคม 2563
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ขณะนี้เศรษฐกิจของทั่วโลกกำลังถูกเชื้อโควิด-19 เล่นงานจนย่ำแย่ไม่แพ้สถานการณ์การระบาดในภูมิภาคต่างๆ ด้วยเหตุนี้รัฐบาลของแต่ละประเทศจึงต้องขุดเอาสารพัดมาตรการมาบรรเทาความเดือดร้อนทางการเงินของประชาชน

อย่างที่สหรัฐฯ ทางทำเนียบขาวก็เร่งผลักดันงบประมาณฉุกเฉินก้อนล่าสุดที่อาจมีมูลค่าสูงถึง 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยคาดว่าในงบก้อนนี้จะมีการนำส่วนหนึ่งมาใช้แจกเงินให้กับประชาชนด้วย ไอเดียแจกเงินนี้แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะฉะนั้นคำถามต่อมาก็คือ รัฐบาลควรจะแจกเงินประชาชนอย่างไรให้ตรงกลุ่มเป้าหมายและได้ผลมากที่สุด

เจาะแผนสหรัฐฯ "แจกเงิน" สู้โควิด-19


ไอเดียนี้มีจุดเริ่้มต้นเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และนายสตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีคลังเสนอให้มีการแจกเงินประชาชนวัยผู้ใหญ่คนละ 1 พันดอลลาร์ หรือประมาณ 32,000 บาท เพื่อเร่งให้เกิดการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณทั้งสิ้นราว 250,000 ล้านดอลลาร์
ต่อมาเมื่อกระบวนการเข้าสู่สภาคองเกรส มิตช์ แม็คคอนเนล ประธานวุฒิสมาชิกเสียงข้างมากพรรครีพับลิกันเปิดเผยว่า แผนล่าสุดของวุฒิสภา ซึ่งหากผ่านจะถือเป็นงบประมาณก้อนที่ 3 ที่ออกมาเพื่อรับมือกับวิกฤตโควิด-19 ได้เพิ่มเงินที่จะแจกจ่ายให้กับประชาชนเป็น 1,200 ดอลลาร์ ในขณะที่ ส.ว.พรรคเดโมแครตกดดันว่า งบก้อนนี้จะต้องมุ่งช่วยผู้มีรายได้น้อย ไม่ใช่ผู้บริหารหรือผู้ถือหุ้น

สำหรับประชาชนที่เข้าข่ายได้รับเงิน 1,200 ดอลลาร์ จะต้องมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 75,000 ดอลลาร์ ส่วนคู่สมรสที่มีรายได้รวมกันไม่เกิน 150,000 ดอลลาร์ต่อปี จะได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่ม 2 เท่าเป็น 2,400 ดอลลาร์ และเพิ่มอีก 500 ดอลลาร์สำหรับลูกแต่ละคนที่มี ขณะที่ใครก็ตามซึ่งมีรายได้ต่อปีสูงกว่าที่กำหนดขั้นต่ำไว้และต่ำกว่า 99,000 ดอลลาร์ ก็จะยังคงได้รับเงินอยู่ แต่ละได้ในสัดส่วนที่ลดหลั่นลงไป 

เจาะแผนสหรัฐฯ "แจกเงิน" สู้โควิด-19


นอกจากนี้รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ บอกด้วยว่า หากวิกฤตโควิดยังยืดเยื้อต่อไป เงินช่วยเหลือก็อาจจะเพิ่มเป็น 2 รอบได้ โดยรอบแรกจะจ่ายในต้นเดือนเมษายน และรอบที่สองช่วงกลางเดือนพฤษภาคม
ครั้งล่าสุดที่รัฐบาลสหรัฐใช้มาตรการแจกเงินเกิดขึ้นเมื่อปี 2551 ในสมัยแฮมเบอร์เกอร์ ไครซิส ตอนนั้นจำนวนเงินที่แจกจ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ 600 ดอลลาร์ต่อคน โดยให้สำนักงานสรรพากรโอนเงินเข้าบัญชีให้กับผู้ยื่้นแบบเสียภาษี และทำให้มีเงินหลายแสนล้านดอลลาร์ถูกอัดฉีดเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจภายในเวลาไม่กี่เดือน

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าสมาชิกสภาคองเกรสทุกคนจะเห็นด้วย รวมทั้ง ส.ว.บางคนจากพรรครีพับลิกันด้วยกันเอง โดยนักการเมืองกลุ่มนี้มองว่า ควรนำงบประมาณดังกล่าวไปช่วยเป็นเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือให้กับธุรกิจขนาดเล็ก เพื่อให้บรรดาผู้ประกอบการมีเงินนำไปจ่ายเงินเดือนลูกจ้างได้ต่อไป หรือไม่ก็เอาไปสนับสนุนเงินช่วยเหลือสำหรับคนว่างงาน แทนที่จะเอาเงินไปแจกให้กับคนที่มีงานทำอยู่แล้ว หรือหากจะแจกเงินคนกลุ่มนี้จริงๆ ก็ควรจะแจกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงหลังวิกฤตโควิดสิ้นสุดลงแล้วมากกว่า
อย่าลืมว่า โลกนี้ไม่มีอะไรฟรี เพราะเงินที่รัฐจ่ายไปก็เท่ากับรายได้ที่สูญเสีย และจะยิ่งไปเพิ่มมูลค่าหนี้สาธารณะที่สูงลิบลิ่วกว่า 23 ล้านล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็น 108 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับขนาดจีดีพีเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว

เจาะแผนสหรัฐฯ "แจกเงิน" สู้โควิด-19

logoline