"สิระ" ท้า "เสรีพิศุทธ์" รับผิดชอบหากมีคนติดโควิด-19 เหตุสั่งนัดประชุม

การประชุมกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ เตมียเวส เป็นประธานในวันนี้ ( 18 มี.ค. ) ที่ประชุมมีการพิจารณาตรวจสอบปัญหาที่มีกลุ่มบุคคลร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ กักตุนและลักลอบส่งออกหน้ากากอนามัยไปยังต่างประเทศ ซึ่งที่ประชุมได้มีมติเชิญ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมทั้งกรมการค้าภายใน และนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เข้ามาให้เข้ามูล / อย่างไรก็ตามระหว่างการพิการณาเรื่องนี้ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กรุงเทพมหานคร พรรคพลังประชารัฐ ได้เดินทางมาร่วมประชุมตามปกติ พร้อมถามในที่ประชุมว่ามีใครติดเชื้อไวรัสโควิด - 19 หรือไม่ โดยนายสิระ กล่าวในที่ประชุมว่าเหตุผลที่ต้องเดินทางมาประชุม เพราะพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์มีคำสั่งเรียกให้มาประชุม ทั้งที่ประธานสภาให้อำนาจกรรมาธิการงดประชุมได้ในช่วงนี้ และกรรมาธิการคณะอื่นก็ได้งบประชุมไปหมดแล้ว ดังนั้นเหลือเพียงชุดนี้ชุดเดียว อีกทั้งยอมรับว่าตน เป็นกลุ่มเสี่ยง เพราะได้เข้าร่วมประชุมกรรมาธิการกิจการทหารร่วมกับพลตรีราชิต อรุณวงษ์ เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก ที่ได้รับการยืนยันแล้วว่าติดเชื้อไวรัส หลังไปร่วมชมมวยวันเดียวกับนายแมทธิว ดีน พิธีกรชื่อดัง ซึ่งการประชุมดังกล่าวเกินขึ้นก่อนที่จะมีไปดูมวย1วัน แต่เพื่อความสบายใจจึงได้ไปตรวจหาเชื่อไวรัสแล้วและจะทราบผลในวันนี้ ( 18 มี.ค. ) 

ซึ่งหากผลออกมาว่าติดเชื้อและใีกรรมาธิการติดเชื้อในห้องประชุมด้วย ขอเรียกร้องให้พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์รับผิดชอบในฐานะผู้เรียกประชุม ขณะที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ ตอบโต้กลับว่าคนที่ต้องรับผิดชอบคือนายสิระ ทั้งนี้ นายสิระได้ขอเดินออกจากห้องเพื่อลาไปฟังผลตรวจ โดยก่อนไป ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนย้ำว่าไม่เห็นด้วยที่มีการประชุมกรรมาธิการในช่วงนี้ เพราะไม่สนองต่อนโยบาบของรัฐบาล ที่ห้ามมีการรวมตัวกันในช่วงนี้ แม้พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์จะให้สัมภาษณ์ว่าไม่กลัวตายเพราะไวรัส แต่ส่วนตัวเห็นว่า พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์อายุเยอะแล้ว หากเป็นอะไรไปก็ไม่เกิดความเสียกับประเทศชาติ หากขาดพลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ไปประเทศชาติก็อยู่ได้ แต่คนที่ร่วมประชุมติดเชื้อจะต้องคูณไปอีกเท่าไหร่ส่วนที่พลตำรวจเอกเสรีพิศุทธ์ กล่าวว่า หากกลัวไวรัส ก็ไม่ควรเป็นผู้แทนนั้น นายสิระ มองว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับการประชุม เพราะการเป็นผู้แทนในเวลานี้ต้องลงพื้นที่ไปดูแลประชาชน การเรียกประชุมช่วงนี้ทำให้ผู้แทนไม่ได้ดูแลประชาชนที่ต้องช่วยหาหน้ากากอนามัยให้ประชุม หรือตรวจสอบการขายหน้ากากเกินราคา รวมทั้งเผยแพร่ความรู้ให้ประชาชน ถึงเวลานี้ควรต้องแยกแยะยามวิกฤติควรดูแบความเดือดร้อนประชาชนในพื้นที่เป็นหลักทั้งนี้ ระหว่างให้สัมภาษณ์นายสิระ ยอมรับว่ารู้สึกมีอาการผิดปกติ หน้าแดง วัดไข้แล้วเกือบ 37องศา ไม่รู้ว่ามีอาการหรือไม่ ทำให้สื่อมวลชนต้องถอยตัวออกห่างจากนายสิระทันที และขอให้นายสิระออกไปจากอาคารรัฐสภาเพื่อรีบไปฟังผลตรวจเพื่อความปลอดภัย