พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า หากต่อไปสถานการณ์การระบาดไม่ดีขึ้น และรัฐบาลมีความจำเป็นต้องปิดประเทศ (lockdown) ที่ทุกคนต้องอยู่ในบ้าน ตนเองในฐานะที่อยู่ในแวดวงด้านโทรคมนาคมการสื่อสารและดิจิทัลมานาน มีความห่วงใยในด้านการสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งรัฐบาลจะต้องเตรียมพร้อมให้ดี มีความรัดกุมและรอบคอบ เพราะระบบโทรคมนาคมเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศทั้งภาคสังคม ภาคธุรกิจ เพราะจะต้องมีการติดต่อสื่อสารกันอยู่ตลอดเวลา รัฐบาลต้องให้ความมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ในด้านโทรคมนาคมจะต้องออกไปทำงานกรณีที่เน็ตเวิร์คมีปัญหา หรือใช้ติดต่อสื่อสารไม่ได้ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ภาคสนาม ทั้งวิศวกร เจ้าหน้าที่เทคนิค ของผู้ให้บริการจะต้องคอยออกมาดูแลโครงข่ายอยู่ตลอดเวลา ภาครัฐควรมีมาตรการหรือการกำหนดกฎเกณฑ์ให้เจ้าหน้าที่ในส่วนนี้ยังคงสามารถปฏิบัติงานได้ตามปกติ และถ้าเป็นไปได้ในการช่วยชี้แหล่งจัดหาอุปกรณ์การป้องกันการติดเชื้อ เช่นหน้ากากอนามัยเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถจัดหาเพื่อสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในส่วนนี้ได้อย่างเพียงพอ
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า ต่อมาในเรื่องการทำระบบสำรองอุปกรณ์ ในกรณีที่มีการใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้น การจราจรด้านการสื่อสารมีมากขึ้น อาจจะต้องมีการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม ดังนั้น รัฐบาลจะต้องให้ความมั่นใจว่าจะสามารถนำเข้าอุปกรณ์โทรคมนาคมที่จำเป็นมาติดตั้งได้ ถึงแม้จะมีมาตรการปิดประเทศ รวมถึงรัฐบาลจะต้องมีการดูแลในเรื่องราคาการขนส่ง โดยเฉพาะอุปกรณ์ด้านโทรคมนาคม เพราะเมื่อมีการปิดประเทศการขนส่งอาจจะมีราคาสูงขึ้น แต่อุปกรณ์ด้านการสื่อสารยังมีความจำเป็นต้องใช้เพื่อขับเคลื่อนประเทศให้เดินหน้าต่อไป ที่สำคัญหากเกิดสถาการณ์ที่มีทราฟฟิคการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นสูงมากๆ ทำให้เน็ตเวิร์คหนาแน่นหรือเต็มจริงๆ ควรมีการจัดลำดับความสำคัญในส่วนนี้ เช่น ทราฟฟิกของแพลตฟอร์มที่ไม่สำคัญอาจจะต้องมีการตัดหรือยุติชั่วคราวไปก่อน เพื่อให้การติดต่อสื่อสารระหว่างบุคคลหรือหน่วยงานในช่วงวิกฤตสามารถทำได้อย่างราบรื่น เพราะแน่นอนว่าเมื่อมีการปิดประเทศ คนต้องอยู่กับบ้าน จะต้องมีการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นมากแน่นอน ดังนั้นเราจะต้องมีแผนเพื่อให้ภาคส่วนต่างๆ ของประเทศ เช่น ภาคธุรกิจยังดำเนินต่อได้
"ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงดีอีเอส รวมถึง กสทช., ผู้ให้บริการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง จะต้องมาประชุมหารือร่วมกัน เพื่อเตรียมพร้อมวางแนวทางปฏิบัติรองรับสถานการณ์ที่อาจถึงขั้นปิดประเทศ เพราะการสื่อสารโทรคมนาคม จะเป็นตัวจักรสำคัญในการขับเคลื่อนให้ภาคธุรกิจ ภาคสังคม เดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งจะเป็นการช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวมในยามวิกฤตได้" พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าว