ทั้งนี้ ในรายการ เนชั่น คนข่าวเข้ม เช้าวันที่ 9 มีนาคม 2563 ได้มีการสัมภาษณ์"พิตตินันท์ รักเอียด"กับกรณี ดังกล่าว โดยได้ให้สัมภาษณ์ ว่า...
"ไม่รู้จักกับนายศรสุวีร์ผมไปพบคนอื่นครับ ไม่ได้ไปพบเขา ไปพบกับรุ่นน้องอีกคนนึง ไปคุยเรื่องอื่น เขามาทีหลัง ผมเองไม่รู้จักเขาขาเป็นเพื่อนกับรุ่นน้องอีกคนนึงเขามาขอถ่ายรูป เป็นเรื่องปกติผมไปกินข้าว ไม่ได้เกี่ยวกับหน้ากากเลย ผมไม่รู้เรื่องเลย ไม่รู้ไปเกี่ยวข้องได้ยังไง ต้องขอโทษด้วย เพราะว่าอาจจะเข้าใจผิดนั่งนิดเดียว ผมเองไม่ได้รู้จักอะไร ไม่ได้คุยอะไร ไม่ได้ไปอะไรเยอะเพราะน้องเขามานั่งอยู่แปบเดียวเเล้วเขาก็ออกไป เเล้วผมก็นั่งอยู่คนเดียว เเล้วก็ทางคนที่ลงเฟซ เขาก็มาทีหลัง เเล้วเจอกันเเล้วผมก็กลับ ก็ไม่มีเนื้อหาอะไรเยอะ มันได้เป็นสาระอะไรเลย เเล้วก็ไม่รู้ว่ามาเป็นข่าว ลงเฟซได้ยังไงไม่รู้ผมเองก็ระวังอยู่เเล้วเพราะผมอยู่กับรัฐบาล
ผมขอโทษด้วยครับ ผมจำไม่ได้ น่าจะเป็นชื่อเล่น เเนะนำเป็นชื่อเล่นไม่ได้เเนะนำเลย เพราะเหมือนไปนั่งร่วมโต๊ะเฉยๆ เขาบอกชื่อเล่น บอย รุ่นน้องผมชื่อ น้องกันเขาก็มาทำเรื่องธุรกิจของเขา ไม่เกี่ยวกับผมเเล้วผมก็จะเเถลงข่าวในเรื่องของความเป็นจริง เเละได้เเจ้งความลงบันทึกประจำวัน ให้เป็นเรื่องของกฎหมายเเล้วตั้งเเต่เกิดเรื่องได้ติดต่อคุณศรสุวีร์ไม่ติดเลยผมไม่โทรหาใครเลย เพราะมันเป็นเรื่องของเด็กๆ ไม่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับผมผมมีให้นามบัตรเขาคุณศรสุวีร์ผมขอรอเเถลงเลยเรื่องซื้อขายเเมสยังไม่รู้เลย พิสูจน์ได้เลยครับ ว่าผมไม่เกี่ยว"
ผู้สื่อข่าวได้ถามย้ำ"พิตตินันท์ รักเอียด"
คุณได้อ่านคำชี้เเจงคุณธรรมมนัสยังครับ?
-ยังครับ
ข้อ 2 เขาบอกว่านายพิตตินันท์เป็นคณะทำงานของข้าพเจ้า ได้ยืนยันกับข้าพเจ้าได้ไปพบกับคุณศรสุวีร์ เพื่อคุยเรื่องหน้ากากอนามัยจริง?
-เดี๋ยวมาให้สัมภาษณ์ประมาณช่วงเที่ยงนะครับ ขอบคุณคุณกนกมาก ขอบคุณมาก
สัมภาษณ์ที่ไหน?
-ยังไม่กำหนดที่เเต่ว่าเป็นจังหวัดสุราษฎร์ครับ