พบติดเชื้อ 21 รายบนเรือสำราญนอกชายฝั่งสหรัฐ

รองประธานาธิบดีไมค์ เพนซ์ ของสหรัฐ ซึ่งเป็นหัวหน้าคณะทำงานต่อสู้กับการระบาดของไวรัส แถลงเมื่อวานว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 21 คนบนเรือสำราญแกรนด์ ปรินเซส ที่จอดอยู่นอกชายฝั่งรัฐแคลิฟอร์เนียจากจำนวน 46 คนที่ได้รับการตรวจหาเชื้อโดยผู้ติดเชื้อประกอบด้วยลูกเรือ 19 คนและผู้โดยสาร 2 คน ลูกเรืออาจสัมผัสเชื้อระหว่างการแล่นเรือ 2 ครั้งก่อนหน้านี้ ทำให้ลูกเรือรวมเกือบ 1,150 คนอาจต้องถูกกักโรคอยู่บนเรือ
นอกจากนี้เรือสำราญลำนี้ ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือรวมเกือบ 3,400 คน จะถูกนำไปยังท่าเรือที่ไม่ใช่ท่าเรือพาณิชย์เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสทุกคนบนเรือ ขณะที่ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ บอกว่า อยากให้กักผู้โดยสารบนเรือ แต่เขาจะให้เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องตัดสินใจว่าควรปล่อยผู้โดยสารลงจากเรือหรือไม่
ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ยืนยันไม่ให้เรือแกรนด์ ปรินเซส เทียบท่าที่เมืองซานฟรานซิสโก หลังจากชายวัย 71 ปี ซึ่งเคยโดยสารเรือลำนี้ เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองซาคราเมนโต
ขณะเดียวกันยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสทั่วสหรัฐเพิ่มเป็น 15 รายแล้ว และผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 327 คน และประธานาธิบดีทรัมป์ ลงนามรับรองแผนงบประมาณฉุกเฉินด้านสาธารณสุข 8,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 260,620 ล้านบาท ที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐสภาในสัปดาห์นี้เพื่อต่อสู้กับการระบาดของโรคโควิด-19
นอกจากนี้จากสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กระจายทั่ว 95 ประเทศและดินแดนในขณะนี้ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อทะลุ 1 แสนคนเป็น 102,169 คนโดยจีนมีผู้ติดเชื้อ 80,651 คน ตามด้วยเกาหลีใต้ 6,767 คน อิหร่าน 4,747 คน และอิตาลี 4,636 คน นอกจากนี้จำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกอยู่ที่ 3,495 คน โดยจีนมีผู้เสียชีวิตมากที่สุด 3,070 คนตามด้วยอิตาลี 197 คน โดยมีผู้เสียชีวิตในวันเดียวมากที่สุดถึง 49 คนเมื่อวานนี้ และอิหร่าน 124 คน
ส่วนอัตราการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกัน โดยอิตาลีมีอัตราเสียชีวิตสูงสุด 4.25% โดยผู้เสียชีวิตในอิตาลีมีอายุเฉลี่ยที่ 81 ปี ส่วนจีนมีอัตราเสียชีวิตอันดับ 2 คือ 3.8% ตามด้วยอิหร่าน 2.6%