รองผู้นำสหรัฐวอน ไม่ป่วยอย่าซื้อหน้ากากอนามัย

รองผู้นำสหรัฐพูดเรื่องนี้ที่รัฐมินเนโซต้า ระหว่างการไปตรวจเยี่ยม 3M โรงงานชั้นนำที่ผลิตหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการป้องกันการระบาดของไวรัส และรัฐบาลสหรัฐว่าจ้างให้ที่นี่ผลิตหน้ากากผ่าตัดสำหรับศัลยแพทย์ โดยเขาบอกว่า การไม่ซื้อหน้ากากอนามัย ถ้าไม่ได้ป่วย เป็นวิธีหนึ่งสำหรับคนซึ่งมีสุขภาพดี สามารถสนับสนุนความพยายามของประเทศในการช่วยเหลือผู้ป่วย และผู้คนที่ช่วยดูแลผู้ป่วย

รองประธานาธิบดีพยายามผ่อนคลายความหวาดวิตกของผู้คนเรื่องการระบาดของไวรัส โดยบอกว่าความเสี่ยงโดยเฉลี่ยของคนอเมริกันที่จะติดเชื้อนั้น ยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ และข่าวดีก็คือ ผู้ที่ติดเชื้อส่วนใหญ่ในสหรัฐ ได้รับการรักษา และก็กำลังจะหายดี
ขณะที่คณะผู้เชี่ยวชาญด้านโรคติดเชื้อ ได้เข้าให้ข้อมูลกับคณะกรรมาธิการวิทยาศาสตร์ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐว่า วัคซีนที่ใช้ในการป้องกันไวรัสตัวนี้ ยังอาจจะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 1 ปี และสำหรับวัคซีนที่ใช้ได้ผลและปลอดภัย อาจจะต้องใช้เวลาถึง 2 ปี พวกเขาบอกว่า ในช่วงนี้ การเข้าไปช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านของสหรัฐในการป้องกันไวรัส จะช่วยลดอันตรายของการที่ไวรัสจะเข้ามาในสหรัฐ และทางการควรปกป้องกลุ่มที่เสี่ยงที่สุด นั่นก็คือบรรดาคนชราในบ้านพักคนชรา
โดยในสหรัฐมีการพบผู้ติดเชื้อรวม 206 คน และเสียชีวิตไปแล้ว 12 ราย ส่วนคนที่หายป่วยแล้วมี 9 คน
ในส่วนของอังกฤษ ที่มีผู้ติดเชื้อรวม 115 คน ปรากฏว่ามีผู้เสียชีวิตรายแรกแล้วเมื่อวาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ก็ได้ออกมาแสดงความเเสียใจกับทางครบครัวผู้สููญเสีย แต่เขาก็บอกว่า สถานการณ์การระบาดในประเทศ ส่วนมากก็ยังเป็นเช่นเดิม แต่ทางผู้เกี่ยวข้องก็กำลังทำงานเพื่อเตรียมพร้อม หากว่าไวรัสจะระบาดในขั้นต่อไป ซึ่งเมื่อถึงเวลา รัฐบาลก็จะออกมาบอกว่าประชาชนจำเป็นจะต้องทำอะไร
พร้อมกันนั้น เขาก็ออกมาย้ำคำแนะนำเรื่องการให้ประชาชนล้างมือให้บ่อยมากขึ้นด้วยน้ำร้อนและสบู่อีกครั้ง
ในส่วนของอิตาลี ที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในยุโรป และเป็นรองแค่จีนและเกาหลีใต้คือ 3,858 คน และเสียชีวิต 149 ราย ทางการออกมาบอกว่าจะทุ่มเงิน 7 พัน 500 ล้านยูโร เพื่อนำมาช่วยเหลือภาคธุรกิจและประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องการระบาดของไวรัส โดยทางการสัญญาว่าจะไม่มีใครต้องตกงานเพราะไวรัสตัวนี้